xs
xsm
sm
md
lg

เผยยอดครอบครองงาช้างกว่า 1,500 ราย ลำพูนขอค้าเพียง 1 ราย คาดของปลอมเกลื่อนตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สรุปผลการแจ้งการครอบครองงาช้าง และการค้างา รวมผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากงาช้าง สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 58 ที่ผ่านมา มีผู้ครอบครองทั้งสิ้นกว่า 1,500 ราย แจ้งเพื่อทำการค้าเพียงรายเดียว คาดงาช้างที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดอาจจะเป็นของปลอมหรือของเถื่อน

วันนี้ (28 เม.ย.) นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สรุปผลการดำเนินการแจ้งการครอบครองงาช้างและการค้างาช้าง รวมผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากงาช้าง ที่มีการสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมียอดผู้มาแจ้งการครอบครองทั้งหมด 1,551 ราย แบ่งออกเป็นประเภทงาช้างสมบูรณ์ มีทั้งหมด 1,450 กิ่ง น้ำหนัก 6,168.0851 กิโลกรัม งาช้างท่อน มีทั้งหมด 738 ท่อน น้ำหนัก 1,667.0753 กิโลกรัม และผลิตภัณฑ์จากงาช้าง มีทั้งหมด 9,922 ชิ้น น้ำหนัก 897.6499 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมด 8,732.8103 กิโลกรัม

นายกมลไชยกล่าวต่อว่า สำหรับผู้มาขออนุญาตค้างาช้างและผลิตภัณฑ์ค้างาช้างในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน มีผู้มาขออนุญาตเพียงรายเดียว คือ ร้านภูพนา จังหวัดลำพูน ทำให้คาดการณ์ได้ว่าอาจมีการค้างาช้างหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้างในตลาดทั่วไปเชื่อว่าจะเป็นของปลอมแทบทั้งสิ้นหรือเป็นงาช้างเถื่อนที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากมีผู้แจ้งทำการค้าเพียงรายเดียวเท่านั้น

“หากเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเบาะแสการพบงาช้างและตรวจสอบพบว่าไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและพบว่ามีการซ่อนหรือปกปิดเจ้าพนักงานจะมีโทษปรับเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาทสำหรับประชาชนทั่วไป และสำหรับผู้ที่ทำการค้างาช้างอย่างผิดกฎหมายจะมีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับเป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท”

สำหรับข้อยกเว้นการแจ้งการครอบครองงาช้างโดยหน่วยงานภาครัฐได้รับการยกเว้น การแจ้งการครอบครองและผู้ครอบครองผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากงาช้างเพื่อการใช้สอยส่วนตัว หรือการใช้สอยทั่วไปที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า สามารถใช้สิทธิไม่แจ้งการครอบครองงาช้างไม่เกิน 2 ชิ้นต่อคน รวมทุกประเภทไม่เกิน 4 ชิ้นต่อคน และทั้งครอบครัวรวมแล้วไม่เกิน 12 ชิ้นต่อครัวเรือน หรือน้ำหนักรวมไม่เกิน 0.5 กิโลกรัม



กำลังโหลดความคิดเห็น