xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเอราวัณร้องศูนย์ดำรงธรรม ถูกหลอกเล่นแชร์ลูกโซ่สูญรวมกว่า 45 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

   กลุ่มผู้ร้อง จำนวน 13 ราย  รวมเป็นเงิน 45 ล้านบาท จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เอราวัณ เพื่อดำเนินคดีและเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเอราวัณ
เลย - ชาวบ้านตำบลผาสามยอด อ.เอราวัณ ร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกสาวเจ้าเล่ห์หลอกให้ปล่อยกู้ลงทุนลักษณะแชร์ลูกโซ่ ผลตอบแทนสูง ช่วงแรกยิ้มกันแก้มปริได้ร้อยละ 4 บาท/เดือน แห่ชวนญาติพี่น้องลงทุนเพิ่ม สุดท้ายลายออกไม่จ่ายคืนทั้งต้นทั้งดอก ทวงถามได้แต่บ่ายเบี่ยง เผยยอดรวมกันถึง 45 ล้านบาท


นายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเอราวัณ จ.เลย เปิดเผยว่า ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเอราวัณได้รับการร้องทุกข์จากนางธนิตา อินทร์เพ็ชร และพวกรวม 13 คน และเครือข่ายผู้เสียหายรวมกว่า 100 คน ซึ่งเป็นราษฎร ต.ผาสามยอด ร้องขอให้ช่วยติดตามทวงถามหนี้คืน กรณี น.ส.ทับทิม ศรีสุทัศน์ อยู่บ้านเลขที่ 245 หมู่ 1 ต.ผาสามยอด ทำสัญญากู้เงินแบบแชร์ลูกโซ่รวมแล้ว 45 ล้านบาท แล้วไม่ชำระหนี้ตามสัญญา

สำหรับพฤติกรรมของ น.ส.ทับทิมซึ่งเป็นเท้าแชร์ ได้ใช้เล่ห์หลอกลวงว่าจะนำเงินจากการให้กู้ยืมกลุ่มพวกตนไปจ่ายให้กลุ่มลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แห่งหนึ่งในจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารมีส่วนรู้เห็นด้วย และยืนยันว่าเงินจะไม่สูญหายไปไหน ยังหมุนเวียนอยู่ในบัญชีของกลุ่มผู้ร้องตลอดเวลา และได้ให้ค่าตอบแทนแก่กลุ่มผู้ร้องจำนวนหนึ่ง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 เป็นต้นมา โดยไม่เกิดปัญหาใดๆ

จนปลายเดือนธันวาคม 2557 เริ่มมีปัญหา เนื่องจาก น.ส.ทับทิมไม่นำเงินค่าตอบแทนมาให้กลุ่มผู้ร้องตามที่กล่าวอ้างไว้ เมื่อไปทวงถามก็บ่ายเบี่ยง ผัดวันไปเรื่อยๆ อ้างว่าเงินยังไม่มา หรือตามหาคนเอาเงินไปไม่เจอ กลุ่มพวกตนได้ติดตามทวงถามหลายครั้ง น.ส.ทับทิมก็ไม่ยอมชำระหนี้ จึงเป็นเหตุให้พวกตนได้รับความเดือดร้อน

สำหรับ น.ส.ทับทิมทำงานอยู่ที่สถาบันการเงินชุมชนผาสามยอด ซึ่งตั้งอยู่หน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลผาสามยอด หมู่ 1 ต.ผาสามยอด ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของเอกชนและเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. สาขาเอราวัณ น.ส.ทับทิมเป็นลูกจ้างทำหน้าที่ให้บริการลูกค้า ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับ ธ.ก.ส.แต่อย่างใด

แต่ น.ส.ทับทิมจะรู้เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส.ของกลุ่มลูกค้าในหมู่บ้าน ชุมชนเป็นอย่างดี จึงมองเห็นช่องทางในการหารายได้จากการปล่อยเงินกู้ให้แก่กลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส. โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 บาทต่อเดือน แต่เนื่องจาก น.ส.ทับทิมไม่มีเงินทุนเพียงพอ ประมาณเดือนเมษายน 2557 น.ส.ทับทิมจึงได้มาชักชวนกลุ่มผู้ร้องในหมู่บ้านชุมชนเดียวกันว่า มีกลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส.ต้องการเงินไปปิดบัญชีธนาคารประจำปี สนใจที่จะปล่อยเงินกู้หรือไม่ โดยเสนอเงินค่าตอบแทนให้ในอัตราร้อยละ 4 บาทต่อเดือน

หากสนใจให้นำเงินมาร่วมลงทุนได้ ซึ่งกลุ่มผู้ร้องเห็นว่า น.ส.ทับทิมทำงานกับสถาบันการเงินคงไม่มีปัญหา จึงได้นำเงินมามอบให้ น.ส.ทับทิม โดยไม่มีการทำสัญญากู้เงินแต่อย่างใด น.ส.ทับทิมจะเป็นตัวกลางในการจ่ายเงินกู้ เพราะทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส.ที่ต้องการเงินไปชำระหนี้ประจำปีเป็นอย่างดี ก็จะมากู้ยืมเงินจาก น.ส.ทับทิมไปชำระหนี้ เพื่อจะได้ทำสัญญากู้ยืมเงินกับ ธ.ก.ส.ครั้งใหม่

เมื่อได้เงินมาแล้วก็จะนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตามข้อตกลงมามอบให้แก่ น.ส.ทับทิม ส่วน น.ส.ทับทิมเมื่อกลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส.ชำระหนี้แล้วก็จะนำเงินค่าตอบแทน (ดอกเบี้ย)มามอบให้แก่กลุ่มผู้ร้องตามข้อตกลง แต่กลุ่มผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของเงินจะได้เพียงเงินค่าตอบแทนที่เป็นดอกเบี้ยเท่านั้น ส่วนเงินต้น น.ส.ทับทิมจะนำไปปล่อยกู้หมุนเวียนไปเรื่อยๆ ซึ่งในครั้งแรกวงเงินมีจำนวนไม่มาก แต่กลุ่มผู้ร้องเห็นว่ามีผลตอบแทนสูง จึงได้รวบรวมเงินจากญาติพี่น้องมามอบให้ น.ส.ทับทิมไปปล่อยกู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต่อมา เดือนธันวาคม 2557 น.ส.ทับทิมไม่นำเงินค่าตอบแทนมามอบให้แก่กลุ่มผู้ร้องตามข้อตกลง กลุ่มผู้ร้องจึงได้ให้ น.ส.ทับทิมทำสัญญากู้ยืมเงินให้ไว้เป็นหลักฐาน และกลุ่มผู้ร้องได้ติดตามทวงถามเงินต้นและดอกเบี้ยคืนตลอดมา แต่ น.ส.ทับทิมก็บ่ายเบี่ยงหรืออ้างว่าเงินยังไม่มา หรือตามหาคนที่เอาเงินไปยังไม่เจอ แต่ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด

กลุ่มผู้ร้อง 13 ราย รวมเป็นเงิน 45 ล้านบาท จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เอราวัณ เพื่อดำเนินคดี และเข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเอราวัณ


กำลังโหลดความคิดเห็น