อุดรธานี - เด็กชายวัย 2-3 วันถูกทิ้งหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวอุดรธานีแต่เช้ามืด ร่างกายมีรอยมดกัด แต่โดยรวมสุขภาพแข็งแรงดี คาดพ่อแม่วัยรุ่นมีปัญหา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งแกะรอยตามหา
เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (24 เม.ย.) ร.ต.ท.ณัฏฐนันท์ พันทองอ่อน ร้อยเวร สภ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง ว่ามีคนพบเด็กทารกถูกนำมาทิ้งไว้ที่หน้าสำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี ถนนอุดร-หนองบัวลำภู ต.นิคมสงเคราะห์ จึงประสานหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีไปตรวจสอบ
พบนายอุดม สละวาสี ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองเชียงพิณ อุ้มเด็กทารกเพศชายใส่เสื้อสีขาว สวมถุงมือสีขาว ห่อด้วยผ้าขนหนูสีเหลือง และชาวบ้านต่างพากันมุงดูด้วยความสงสารเวทนาเด็ก
จากการสอบถามนายสง่า สืบมา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 05/2 ม.10 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองเชียงพิณ เล่าว่า เมื่อช่วงเวลา 05.40 น. มาเปิดประตูตามปกติ สังเกตเห็นถุงดำและกระเป๋าวางอยู่บริเวณเสาไฟฟ้าด้านในประตู นึกว่ามีใครเอาขยะมาทิ้งไว้ เมื่อเดินเข้าไปดูพบว่าด้านข้างถุงดำมีทารกเพศชายห่อด้วยผ้าขนหนูนอนอยู่สภาพถูกมดกัด ภายในถุงดำและกระเป๋ามีผ้าอ้อม ขวดนม และผ้าอ้อมสำเร็จรูปจำนวนหนึ่ง จึงรีบอุ้มเด็กเข้าไปหาเจ้าหน้าที่บ้านพักและผู้ปกครองนิคมฯ จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางสาวทิวาพร อิ่มทิพย์ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) ช่วงบ่ายมีคนโทรศัพท์มาสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าจะติดต่อสอบถามเรื่องการนำเด็กมาส่งที่สำนักงาน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำว่าเจ้าหน้าที่ต้องไปพบที่บ้าน สอบถามความจำเป็นและเหตุผลการนำเด็กมาฝากกับสำนักงานก่อน
“คงต้องตรวจสอบรายการโทร.เข้าอีกครั้ง ว่าเบอร์โทรศัพท์ยังอยู่ในเครื่องบันทึกหรือไม่ เนื่องจากเครื่องสามารถบันทึกได้เพียง 10 เลขหมายเท่านั้น”
ด้านนายอุดมกล่าวว่า หลังจากที่ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายแล้ว จะนำตัวกลับมาที่บ้านพักเด็กและครอบครัวเพื่อนำมาดูแลและทำการติดตามตัวพ่อแม่ต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นสันนิษฐานว่าทารกน้อยอายุน่าจะไม่เกิน 7 วัน เนื่องจากสายสะดือยังไม่หลุด และโดยทั่วไปเด็กสุขภาพแข็งแรงดี หากดูจากร่องรอยตัดสายสะดือแล้ว คาดว่าทารกคนดังกล่าวน่าจะคลอดที่โรงพยาบาล แต่ไม่ทราบว่าเป็นที่โรงพยาบาลไหน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าแม่ของเด็กคงไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กได้ จึงนำมาทิ้งไว้จนมีเจ้าหน้าที่มาพบ ซึ่งจะสืบหาตัวมาดำเนินคดีต่อไป
