ชัยนาท - ผบ.มทบ.13 มอบเงินอุดหนุนโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่ชาวชัยนาทกว่า 18 ล้านบาท เพื่อช่วยเกษตรกรที่กำลังประสบภัยแล้งอย่างหนัก
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (22 เม.ย.) พล.ต.ดำริห์ สุขพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เปิดตัว Kick Off และมอบเงินอุดหนุนโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งจังหวัดชัยนาท” ณ วัดหนองตาตน หมู่ที่ 3 ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท และนายสุรพล จารุพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และ พ.อ.ธราวัฒน์ แสงอ่อน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่งคงภายในจังหวัดชัยนาท ร่วมเปิดงาน และมอบเงินอุดหนุนโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งจังหวัดชัยนาท ให้แก่ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล หรือ ศบกต. จำนวน 19 ตำบล รวมเป็นเงิน 18,136,200 บาท
ในการนี้ นายธีระศักดิ์ ขุมเงิน เกษตรจังหวัดชัยนาท ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับประธานศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล หรือ ศบกต. ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณทั้ง 5 อำเภอ ได้แก่ อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ อ.หันคา อ.หนองมะโมง และ อ.เนินขาม ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมงานและเกษตรกรหมู่ที่ 3 ต.อู่ตะเภา ได้ช่วยกันเทปูนทำลานตากผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่อำเภอมโนรมย์ขอรับการสนับสนุน เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ทั้งนี้ โครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง เป็นโครงการที่รัฐบาลให้การสนับสนุนงบประมาณแก่องค์กรชุมชนด้านการเกษตรระดับตำบล วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อตำบล เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากการขาดรายได้ในช่วงฤดูแล้ง
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ร่วมกันสนับสนุนประชาชนในการดำเนินโครงการต่างๆ ตามแผนของชุมชน และส่งเสริมให้ชุมชนในพื้นที่เกษตรเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง กำหนดกิจกรรมความต้องการ และบริหารจัดการด้วยตนเอง
นายธีระศักดิ์ ขุมเงิน เกษตรจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า จังหวัดชัยนาท มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จำนวน 19 ตำบล รวม 5 อำเภอ ได้แก่ อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ อ.หันคา อ.หนองมะโมง และ อ.เนินขาม ซึ่งภัยแล้งที่เกิดขึ้นนอกจากจะส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถปลูกพืชได้ เกิดการว่างงาน และขาดรายได้แล้ว ในระยะยาวจะทำให้ประสิทธิภาพการผลิตลดลง และเกิดผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของชุมชนเกษตร
ดังนั้น เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร รวมทั้งสร้างโอกาสให้ชุมชนเกษตรเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการเกษตร ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตร และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของชุมชนโดยชุมชนเป็นผู้กำหนดกิจกรรมจากความต้องการ และบริหารจัดการให้เกิดความยั่งยืน โดยให้ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล (ศบกต.) ซึ่งเป็นองค์กรชุมชนด้านการเกษตรระดับตำบล ทำหน้าที่เป็นองค์กรตัวแทนของชุมชนในการขอรับสนับสนุนงบประมาณในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อตำบล
โดยจังหวัดชัยนาท มีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามแผนความต้องการของชุมชน แบ่งตามประเภทโครงการ ได้แก่ 1.การจัดการแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรของชุมชน เช่น การสร้างฝายน้ำล้น การขุดลอกคูส่งน้ำ 2.การปรับปรุงโครงการสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การก่อสร้างลานตากผลผลิตทางการเกษตร การจัดสร้างยุ้งฉางชุมชน 3.การจัดการเพื่อลดความสูญเสียของผลผลิตการเกษตร เช่น การปรับปรุงศักยภาพศูนย์ข้าวชุมชน รวมทั้งสิ้น 47 โครงการ เป็นเงิน 18,136,200 บาท