ตาก - เกิดเหตุไฟไหม้โกดังอบลำไยใหญ่วังเจ้ากลางดึก หวิดลามห้องเก็บโพแทสเซียมคลอเรตเสี่ยงบึ้ม คนงานฝ่าเปลวเพลิงช่วยพนักงานบัญชีสาวต้องหนีตายระทึก รายแรกกระโดดลงบันได อีกรายกระโดดหน้าต่างชั้นสองเจ็บทั้งคู่
วันนี้ (22 เม.ย.) พ.ต.ต.มนูญ ม่วงมิตร พนักงานสอบสวน สภ.วังเจ้า อ.วังเจ้า จ.ตาก รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โกดัง บริษัท ริดฟิวเฟรสฟู๊ต จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานอบลำไยส่งออก และรับซื้อลำไยรายใหญ่ของอำเภอวังเจ้า เลขที่ 231 หมู่ 14 บ้านสบยม ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า อยู่ริมถนนพหลโยธิน สายตาก-กำแพงเพชร ฝั่งตรงข้ามที่ว่าการอำเภอวังเจ้า เมื่อเวลา 00.15 น.ที่ผ่านมา จึงรีบรุดไปทำการสอบสวน พร้อมระดมรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ต่างๆ ในวังเจ้า และกำแพงเพชร รวม 12 คัน ทีมกู้ภัยชั้นสูงของ ปภ.ตาก เข้าทำการระงับเหตุ
เมื่อไปถึงพบเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณตัวอาคารชั้นสอง ซึ่งเป็นห้องพักพนักงานการเงิน และห้องเก็บกล่อง-สติกเกอร์ที่อยู่ด้านหลังห้องบัญชี รวมทั้งเกือบลุกลามไปยังห้องเก็บสารโพแทสเซียมคลอเรต หรือกำมะถัน ที่เสี่ยงต่อการระเบิด เจ้าหน้าที่จึงต้องทำลายสิ่งกีดขวางเพื่อเข้าไปฉีดน้ำดับไฟ ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบถามคนงานที่อยู่ในที่เกิดเหตุบอกว่า ขณะเกิดเหตุเจ้าของบริษัทไปติดต่อธุรกิจที่กรุงเทพฯ มีเพียงพวกตนอยู่ด้วยกัน 6 คนบริเวณห้องด้านล่าง และพนักงานบัญชี ที่เป็นผู้หญิงอีก 2 คน นอนชั้นบน โดยพวกตนอยู่ด้านล่างติดกับจุดต้นเพลิง
คนงานบอกอีกว่า ตอนนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น คาดว่าจะเป็นหม้อแปลงไฟระเบิด ก่อนเปลวไฟจะลุกลามไปยังกองกล่องกระดาษที่เตรียมไว้บรรจุลำไยส่งขาย โดยเปลวไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจนไปถึงชั้นสองที่เป็นห้องพักของพนักงานบัญชี พวกตนจึงรีบหาทางลุยฝ่าเปลวเพลิงขึ้นไปช่วย คนแรกหนีลงมาทางบันได แต่พลัดตก ทำให้มีอาการปวดหลัง, ข้อเท้าขวา และมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย แต่ไม่สาหัส นำส่งโรงพยาบาลวังเจ้า ส่วนหญิงสาวอีกรายกระโดดหน้าต่างชั้นสองลงมาขาหัก ได้นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อทำการรักษาต่อไป
ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้คาดว่ามาจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณสะพานไฟ ซึ่งอยู่ในห้องเก็บกล่องกระดาษ และเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อน และแห้ง ส่งผลให้เกิดการลุกลามขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว โชคดีที่สามารถสกัดไม่ให้ไฟลุกลามไปยังห้องเก็บสารโพแทสเซียมคลอเรต หรือกำมะถัน ที่อยู่ถัดไปอีกหนึ่งห้องเอาไว้ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการระเบิดขึ้นได้
ส่วนการประเมินความเสียหาย เบื้องต้นมีรถจักยานยนต์ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งคัน จำนวน 1 คัน และอุปกรณ์สำนักงาน และอื่นๆ รวมประมาณ 400,000 บาท