นครปฐม - ชาวบ้าน 3 ตำบล จาก 2 จังหวัด ทั้งในพื้นที่นครปฐม และราชบุรี รวมตัวบุกวัดบ้านยาง อำเภอเมืองนครปฐม เรียกร้องให้เจ้าอาวาสออกมาชี้แจงข้อสงสัย หลังพบมีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการเงิน สีกา มีธุรกิจรถบรรทุกมุลค่าหมาศาล จนเจ้าคณะตำบลบ้านยาง และสำนักพุทธเข้ามาเคลียร์แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ขณะที่ชาวบ้านยื่นคำขาด 6 พ.ค.หากไม่ชัดเจนรวมตัวไล่พ้นวัด
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (20 เม.ย.) ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านยาง ม.3 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม ได้มีชาวบ้านกว่า 300 คน จาก ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม และจาก ต.ปากแรต ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้รวมตัวกันเพื่อขอสอบถามสถานะทางการเงินของวัด และข้อสงสัยต่างๆ ที่ชาวบ้านมีความเคลือบแคลงใจในตัว พระโกศลจิตตานุรักษ์ หรืออาจารย์กบ อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านยาง โดยมี พ.ท.อานพ กสิบุตร หัวหน้าชุดกรมการสัตว์ทหารบก พ.ต.ท.พีระวัฒน์ เกตุษา สวป.สภ.โพรงมะเดื่อ และนายธีระศักดิ์ คงศิริ ปลัดอำเภอเมืองนครปฐม นำกำลังเจ้าหน้าที่มาคอยควบคุมความสงบ โดยมี นายประกอบ ดาปาน กำนันตำบลบ้านยาง และนายกิตติพงษ์ พึ่งบุญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นแกนนำฝ่ายชาวบ้าน
นายประกอบ ดาปาน กำนันตำบลบ้านยาง กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านถึงข้อสงสัยต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัว พระโกศลจิตตานุรักษ์ หรืออาจารย์กบ เจ้าอาวาสวัดบ้านยาง เช่น เรื่องเงินทำบุญสงกรานต์ ปี 2558 จำนวน 1.8 แสนบาท เงินทอดกฐิน 3 ปีที่ผ่านมา การใช้งบประมาณในการก่อสร้างพระประธานหลวงปู่จันทร์ ขนาดเท่าตึก 4 ชั้น มูลค่ากว่า 10-15 ล้านบาท ที่ดินของวัดบ้านยาง ที่บ้านหนองฟัก ต.กรับใหญ่ จ.ราชบุรี กว่า 300 ไร่ เรื่องการตัดต้นยางภายในวัดหายไป และเรื่องการมีพฤติกรรมที่มีสีกาเข้ามาพัวพัน รวมถึงการมีธุรกิจรถบรรทุกมูลค่ามหาศาล
“หลังจากชาวบ้านได้นำเรื่องมาร้องเรียนที่ผม ผมก็ได้เข้ามาพูดคุยกับเจ้าอาวาสวัดบ้านยางแล้ว แต่ก็ยังไม่ทราบว่า พฤติกรรมต่างๆ ตามที่ชาวบ้านได้แจ้งมานั้นทางเจ้าอาวาสได้ละเลิกแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะเงินที่ทางวัดได้ใช้จ่ายไป ในวันนี้ผมพร้อมชาวบ้านจึงเดินทางมาเพื่อขอดูหลักฐานการใช้จ่ายเงินเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้ชาวบ้านได้หายสงสัย” นายประกอบ ดาปาน กำนันตำบลบ้านยาง กล่าว
ด้าน นายกิตติพงษ์ พึ่งบุญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บ้านยาง กล่าวว่า พฤติกรรมโดยมิชอบของเจ้าอาวาสวัดนี้มีมานานจนชาวบ้านทนไม่ไหว จึงได้รวมตัวกันมาเพื่อทวงถามข้อสงสัยหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการพัวพันกับสีกา ที่มีตำแหน่งเป็นถึงด็อกเตอร์ ที่จะเข้ามาวัดตอนดึกๆ บางวันตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มาอยู่วัดจนเกือบสว่าง
“วันนี้ผมจึงอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ว่าเป็นจริงอย่างที่ชาวบ้านร้องเรียนกันหรือไม่ และอยากให้มีการแก้ไขปรับเปลี่ยนเพื่อให้วัดบ้านยาง ที่มีหลวงพ่อจันทร์ ที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านมานานกลับมาสง่างามอีกครั้ง รวมทั้งเรื่องธุรกิจรถบรรทุก ก็น่าสงสัยที่ควรจะเอามาชี้แจงให้ชัดเจนด้วย” นายกิตติพงษ์ พึ่งบุญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บ้านยาง กล่าว
ต่อมา พระโกศลจิตตานุรักษ์ หรืออาจารย์กบ อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านยาง ได้ออกมาพบกับชาวบ้าน พร้อมด้วยคณะสงฆ์ที่อยู่ในวัด พร้อมกับชี้แจงข้อสงสัยให้ชาวบ้านเรื่องเงินต่างๆ ที่ใช้จ่ายไป จำนวน 5-6 ล้านบาท ว่า ได้ใช้จ่ายจริง และได้นำเงินมาบูรณะพัฒนาวัด และพื้นที่ไปมาก ซึ่งหากชาวบ้านจะขอดูหลักฐานต่างๆ ก็จะขอเวลา 1 เดือนในการนำเอกสารมาชี้แจง และขอยืนยันในความบริสุทธ์ใจ
ต่อมา พระมหาประสิทธิชัย ปัญญิโต เจ้าอาวาสวัดโพรงมะเดื่อ เจ้าคณะตำบลบ้านยาง พร้อมด้วยนายวิโรจน์ อุ่นทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางมาร่วมถกปัญหาดังกล่าวท่ามกลางชาวบ้านที่มีมากขึ้น และใช้เวลาซักถามข้อสงสัยต่างๆ นานกว่า 4 ชั่วโมง แต่ทางวัดบ้านยาง ก็ไม่ได้มีการแจกแจงเอกสารใดๆ จึงได้มีข้อสรุปให้กำนันตำบลบ้านยาง ทำหนังสือตรงไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ทุกข้อที่สงสัยเพื่อจะได้มีการติดตามการชี้แจงต่อชาวบ้าน แต่ชาวบ้านก็ยังไม่พอใจ แต่ก็ได้แยกย้ายกันกลับไปเนื่องจากการชุมนุมนั้นกินเวลาหลายชั่วโมงแต่ไม่ได้ข้อยุติ
อย่างไรก็ตาม ทางชาวบ้านได้มีข้อสรุปกันในเบื้องต้นก่อนแยกย้ายกันกลับคือ ขอให้ทางวัดเตรียมทำการชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ที่ชาวบ้านจะมาสอบถามในวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 นี้เวลา 12.00 น. หากทางวัดไม่สามารถชี้แจงได้ หรือหากไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน ชาวบ้านจะมีการเดินประท้วงขับไล่เจ้าอาวาสวัดบ้านยาง ออกจากวัดทันที และจะไม่มีการอ่อนข้อให้ เนื่องจากวันนี้เจ้าอาวาส และผู้ช่วย รวมถึงกรรมการวัดไม่ได้ออกมาแก้ข้อสงสัยได้เลยสักข้อเดียว นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหนี้หลายรายนำบิลเอกสารค่าน้ำมันที่ทางวัดค้างไว้มาทวงในการชุมนุมด้วย