ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา สนธิกำลังทหารลุยรื้ออาคารรุกล้ำ “บูติคโฮเต็ล” พัทยาใต้ หลังดื้อแพ่งไม่ยอมดำเนินการรื้อถอนอาคาร เนื่องจากพบว่า เป็นอาคารที่ก่อสร้างผิดแบบตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่ได้มีการต่อเติมดัดแปลงอาคาร ค.ส.ล.ขนาด 5 ชั้น เป็น 7 ชั้น และอาคารขนาด 7 ชั้น เป็น 13 ชั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
จากกรณีที่เมืองพัทยา มีคำสั่งให้สถานประกอบการโรงแรมในเครือบูติค โฮเต็ล ของบ้านจอมเทียน ฮอลิเดย์ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กลางซอย วี.ซี.พัทยาใต้ ดำเนินการรื้อถอนอาคาร จำนวน 2 แห่ง เนื่องจากพบว่า เป็นอาคารที่ก่อสร้างผิดแบบตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่ได้มีการต่อเติมดัดแปลงอาคาร ค.ส.ล.ขนาด 5 ชั้น เป็น 7 ชั้น และอาคารขนาด 7 ชั้น เป็น 13 ชั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้ดำเนินการออกคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง
รวมทั้งคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 พร้อมมอบหมายให้นิติกรเมืองพัทยา เป็นผู้ดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ก่อนส่งเรื่องฟ้องร้องในชั้นศาลไปแล้ว ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในส่วนของอำเภอบางละมุง และเมืองพัทยา ได้สนธิกำลังในการเข้าตรวจสอบแต่ก็ยังพบว่ามีการลักลอบเปิดดำเนินการ จึงได้นำกำลังเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปแล้วบางส่วน พร้อมสั่งปิดการใช้อาคารเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีการปรับปรุงแล้วเสร็จ แต่พบว่าไม่มีความคืบหน้ามากนัก
ล่าสุด วันนี้ (20 เม.ย.) นายอิทธิวุฒิ ฐิติวร ผู้อำนวยการสำนักการช่างเมืองพัทยา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังกับกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 14 ลงพื้นที่บริเวณอาคารโรงแรมดังกล่าว ก่อนทำการปิดกั้นระงับการใช้อาคารเป็นการชั่วคราว พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทำการทุบรื้อถอนอาคารบริเวณชั้นล่างอย่างเป็นรูปธรรม หลังกรณีดังกล่าวเป็นปัญหายืดเยื้อมาเป็นเวลานาน
นายอิทธิวุฒิ เปิดเผยว่า สำหรับอาคารโรงแรมบูติคโฮเต็ลแห่งนี้ แต่เดิมได้ขออนุญาตก่อสร้างไว้ที่ขนาดความสูง 7 ชั้น แต่กลับพบว่า มีการก่อสร้างต่อเติมในระดับความสูงถึง 13 ชั้น นอกจากนี้ ยังไม่มีการเว้นพื้นที่ set back จากแนวถนนตามข้อระบุของกฎหมาย เมืองพัทยา จึงได้ออกคำสั่งให้ทำการระงับ พร้อมให้ทำการรื้อถอนตามขั้นตอน
โดยให้ระยะเวลาแก่เจ้าของกิจการในการดำเนินการเองไปแล้ว แต่ปรากฏว่า ที่ผ่านมาทางโรงแรมกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ เมืองพัทยา จึงได้สรุปเรื่องแจ้งดำเนินคดีไปยัง สภ.เมืองพัทยา พร้อมส่งเรื่องฟ้องร้องต่อศาลฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้เรื่องยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาในชั้นศาล
อย่างไรก็ตาม เมืองพัทยาเองก็มีอำนาจตามกฎหมายในการเข้ามาจัดการเกี่ยวกับตัวอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร จึงได้สนธิกำลัง ร่วมกับทหารจาก มบท.14 เข้ามารื้อถอน พร้อมจะประสานไปยังโรงแรมเพื่อเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าวอีกด้วย
นายอิทธิวุฒิ กล่าวต่อว่า นอกจากอาคาร 11 ชั้น ของโรงแรมบูติค โฮเต็ลแล้ว ยังมีอาคารอื่นๆ ในเครือเดียวกันที่มีการดัดแปลงอาคาร และก่อสร้างผิดไปจากแบบอีก จำนวน 9-10 โครงการ ซึ่งปัจจุบันเมืองพัทยา ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว และถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก
อีกทั้งกรณีดังกล่าว นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากด้วยพัทยา ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ดังนั้น กรณีของอาคารในการรองรับจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีความเป็นมาตรฐานตามที่กฎหมายระบุเพราะหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่เข้ามาควบคุมกำกับดูแลก็อาจสร้างอันตราย และผลเสียที่รุนแรงได้ในอนาคต