ประจวบคีรีขันธ์ - พบสถิติการเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจวบฯ ยอดพุ่ง รวมทั้งอุบัติเหตุ ทำร้ายร่างกาย จมน้ำทะเลแล้ว 13 ราย พบสถิติช่วงเดียวกันสูงกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ในเส้นทางถนนเพชรเกษม มากกว่าถนนสายรอง ล่าสุด เตรียมสั่งปิดยูเทิร์นจุดกลับรถโรงพยาบาลหัวหิน พบเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และปรับแผนรับมือช่วงขาเข้ากรุงเทพฯ
วันนี้ (14 เม.ย.) นายสุเทพ รื่นถวิล หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2558 ระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน ซึ่งที่ผ่านมาแล้ว 5 วัน มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 41 ครั้ง บาดเจ็บ 39 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และมียอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรวม 8 คน
รวมทั้งรายล่าสุดเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ส.ต.ต.วิรุฬห์ ศรีณรงค์ สังกัด ตชด.กก.4 บก.สอ.ตชด.ได้ขี่จักรยานยนต์เพื่อข้ามถนนกลับรถ แต่ถูกรถยนต์เบนซ์ซึ่งผู้ขับขี่เป็นชาวฝรั่งขับมาด้วยความเร็ว
ขณะนี้ในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ กำลังเสนอให้มีการปิดยูเทิร์นหน้าโรงพยาบาลหัวหิน เป็นการถาวร เนื่องจากพบข้อมูลว่า ไม่ว่าจะเป็นช่วงปกติ หรือเทศกาลจุดนี้มักเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ อีกทั้งพบว่า สถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุบนถนนเพชรเกษม มากว่าถนนสายรองที่มีการประเมิน
ส่วนในวันเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ของประชาชนจากภาคใต้ที่จะผ่านถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 ซึ่งมีความยาวกว่า 224 กม.นั้น จะได้ปรับแผนให้เจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ ที่อยู่ฝั่งขาล่องใต้ให้มาคอยอำนวยความสะดวกในฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ เพิ่มมากขึ้น คาดว่าประชาชนน่าจะเริ่มทยอยเดินทางกลับตั้งแต่ช่วงเย็นวันนี้ ไปจนถึงช่วงค่ำวันที่ 15 เมษายน ซึ่งปริมาณรถที่ผ่านน่าจะมีมากเพิ่มขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะมีสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งรับผิดชอบถนนสายเพชรเกษมหมายเลข 4 ตลอดแนว พร้อมรถวิทยุ คอยอำนวยความสะดวกทั้งที่ทับสะแก อำเภอเมืองประจวบฯ อำเภอกุยบุรี และบริเวณถนนบายพาสปราณบุรี-ชะอำ ซึ่งเป็นเส้นเลี่ยงเมืองที่ไม่ต้องเข้าตัวเขตเทศบาลเมืองหัวหิน
ส่วนที่อำเภอหัวหิน มีนักท่องเที่ยวจมน้ำทะเลเสียชีวิต 3 ราย และถูกแทงเสียชีวิต 1 ราย รวมแล้วในช่วงเทศกาลสงกรานต์จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตทั้งจากอุบัติเหตุ ทำร้ายร่างก่าย และจมน้ำรวมทั้งสิ้น 13 ราย ทำให้สถิติช่วงเดียวกันยอดสูงกว่าปีที่ผ่านมา