จันทบุรี-เกิดพายุฤดูร้อนรอบที่ 2 พัด ต้นทุเรียนกว่า 30 ต้น และสวนกล้วยไข่ส่งออกในพื้นที่ หมู่ที่ 14 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
วันนี้ (11 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายนิวัฒน์ พูลสวัสดิ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ที่ 14 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เกษตรกรกรชาวสวนว่ามีพายุฤดูร้อนพัดสวนทุเรียนที่ปลูกในเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ได้รับความเสียหาย หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ พบนายนิวัฒน์ เกษตรกรชาวสวนทุเรียน ยืนรอผู้สื่อข่าวอยู่
จากนั้นนายนิวัฒน์ ได้พาผู้สื่อข่าวไปสำรวจสวนทุเรียน ตรวจสอบบริเวณรอบสวนพบความเสียหายต้นทุเรียนถูกพายุพัดล้มหักโค่นกว่า 30 ต้น และลูกร่วงหล่นกว่า 100-200 ลูก คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 15-20 ตัน ความเสียหายประมาณ 2 ล้านกว่าบาท นอกจากนี้ต้นทุเรียนยังได้ล้มพาดเสาไฟฟ้าล้มหักโค่น จำนวน 5 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับนาน 1 ชั่วโมง
และนอกจากนี้สวนทุเรียน และสวนกล้วยไข่ส่งออกที่อยู่ใกล้เคียง คือ สวนของนางบุญญิสา วรรณี อายุ 57 ปี ต้นทุเรียนล้มหักโค่นกว่า 20 ต้น และสวนกล้วยไข่ส่งออกของ นางวิรวรรณ เมืองณะศรี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 14 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ก็ถูกพายุฤดูร้อนลมแรงพัดสวนกล้วยไข่ส่งออกกว่า 100 ต้น ล้มหักโค่นได้รับความเสียหาย
ซึ่งพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นรอบที่ 2 ที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดขึ้นเมื่อช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี มาแล้ว ในเบื้องต้นเกษตรกรชาวสวนได้แจ้งไปยังผู้นำท้องถิ่น และองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งเบญจา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ในการขอรับการช่วยเหลือเยียวยาในเรื่องของเงินค่าชดเชยสวนที่เสียหายจากพายุฤดูร้อนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นางวริวรรณ เมืองณะศรี กล่าวว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ในช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อนพัดเข้ามาในสวน ซึ่งในช่วงนั้นมีลมแรงมากและได้พัดเอาต้นกล้วย และต้นทุเรียนล้มหักโค่นเสียหายเป็นวงกว้าง โดยลมมาตามช่องและใช้เวลาไม่นานก็หอบ และพัดสวนจนล้มเป็นหน้ากองหลังลมสงบก็ได้แจ้งให้ผู้นำท้องถิ่นได้รับทราบดังกล่าว