จันทบุรี-เกษตรจังหวัดจันทบุรี และ อบต.ทุ่งเบญจา ลงพื้นที่สำรวจสวนทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดต้นล้มหักโค่น และลูกร่วงหล่นเสียหายกว่า 80 ตัน ใน 2 อำเภอแล้ว เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
วันนี้ (8 เม.ย.) นายเอกชัย สิทธิโชค รักษาการหัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี นายสมชาย ลินจง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งเบญจา และนายสัญชัย สัมพันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายสวนทุเรียนของเกษตรกรที่เกิดจากพายุฤดูร้อนพัดสวนทุเรียนในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งเบญจา และพื้นที่ตำบลพวา หมู่ที่ 13 อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เมื่อคืนนี้
พบความเสียหายเป็นวงกว้าง มีสวนทุเรียนพันธุ์หมอนทอง อายุ 8 ปี ของนายชรินทร์ เจริญพร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/2 หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งเบญจา เสียหายกว่า 100 ต้น ผลผลิตถูกพายุพัดลูกร่วงหล่นเสียหาย 15 ตัน และสวนของ นายวินัย พลอยสิทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/6 หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งเบญจา สวนทุเรียนเสียหายกว่า 50 ต้น และผลผลิตร่วงหล่นเสียหายกว่า 5 ตัน
นอกจากนี้ ในพื้นที่ตำบลพวา หมู่ที่ 13 อำเภอแก่งหางแมว มีสวนทุเรียน ถูกพายุพัดล้มหักโค่นกว่า 250 ต้น ลูกร่วงหล่นเสียหายกว่า 50 ตัน รวมทั้งสิ้นกว่า 80 ตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ล่าสุด ได้รับรายงานเพิ่มว่า มีสวนกล้วยไข่ส่งออกของ นางวัลลีย์ เลิศรัตนาวรชัย อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ที่ 14 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ ถูกพายุฤดูร้อนพัดสวนกล้วยไข่ต้นหักโค่น เสียหายกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และทุเรียนเสียหายกว่า 3 ตัน
ในเบื้องต้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการสำรวจ และเตรียมให้การช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบแล้ว หากเป็นการเสียหายแบบสิ้นเชิง เกษตรอำเภอจะจ่ายค่าชดเชยไร่ละ 1,690 บาท ส่วนผลผลิตที่ร่วงหล่นเสียหาย ทางเกษตรจังหวัดจันทบุรี จะรับซื้อในการนำไปทำปุ๋ย หรือแปรรูปเป็นทุเรียนทอดกรอบ และลูกอมกวนต่อไป