ประจวบคีรีขันธ์ - นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ต่างชาติ และพม่า แห่จองห้องพักในตัวเมือง รอร่วมงาน “สงกรานต์สองแผ่นดิน” ที่ชายแดนด่านสิงขร ต.คลองวาฬ ยกระดับเป็นจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ขณะที่แขวงการทางเร่งปิดแยกอันตรายที่สุดบนถนนบายพาส “หัวหิน” แล้ว หลังปริมาณรถหนาแน่นมากขึ้น
นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วันที่ 13-17 เม.ย. ทางจังหวัด ร่วมกับอำเภอเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดงาน “สืบสานสงกรานต์สองแผ่นดิน” ณ บ้านด่านสิงขร หมู่ 2 ค.คลองวาฬ อ.เมือง เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของชาวประจวบคีรีขันธ์ และชาว จ.มะริด ประเทศพม่า ซึ่งเป็นบ้านพี่เมืองน้อง และยกระดับเป็นจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรแล้ว เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการค้าชายแดน
สำหรับกิจกรรมในงานตั้งแต่เช้าวันที่ 13 เม.ย. จะมีขบวนแห่สงกรานต์จากทั้งของชาวพม่า จากบ้านมอด่อง อ.ตะนาวศรี และ จ.มะริด และขบวนแห่สงกรานต์ของ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ร่วมขบวนกว่า 2,000 คน จากนั้นเป็นการรดน้ำผู้สูงอายุของทั้ง 2 ประเทศ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของไทย และพม่า การประกวดพืชผลทางการเกษตร การจำหน่ายสินค้าโอทอป สินค้าพื้นเมือง การแสดงและจำหน่ายสินค้าจาก 2 ประเทศ การจำลองตลาดย้อนยุคด่านสิงขร และการชมมวยคาดเชือกไทย และพม่า ส่วนวันที่ 15 เม.ย. จะมีการตักบาตรพระพม่า และไทย 130 รูป นอกจากนั้น ในช่วงเทศกาลยังเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าไปเที่ยวชมฝั่งพม่า ที่บ้านมูด่อง โดยด่านจะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 08.30-22.00 น.
นายสมพร กล่าวว่า ขณะนี้มีการจัดระเบียบทั้งที่จอดรถยนต์ รถบัสโดยสารเป็นสัดส่วนแล้ว รวมทั้งการรักษาความสะอาด การจัดระเบียบค้าขายภายในโดมลานแสดงวัฒนธรรม การดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งพร้อมสำหรับพิธีเปิดวันที่ 13 เม.ย. โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายแดนด่านสิงขร มีความคึกคักเป็นพิเศษ มีชาวพม่าเดินทางมาจากิ จ.มะริด มาจองห้องพักที่โรงแรมประจวบสามอ่าว ถึง 70 ห้อง ระหว่างวันที่ 13-14 เม.ย. รวมถึงโรงแรมหาดทอง โรงแรมโกลเด้น บีช โรงแรมประจวบ แกรนด์ และอีกหลายโรงแรมในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และ ต.คลองวาฬ มีนักท่องเที่ยวชาวไทย ต่างชาติ และพม่าจองห้องพักเพื่อร่วมงาน “สงกรานต์สองแผ่นดิน” จำนวนมาก
ด้านแขวงการทางประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) และหมวดการทางหัวหิน แจ้งเตือนจุดอันตรายที่สุดบนถนนหมายเลข 37 บายพาส ช่วงวังโบสถ์-ปราณบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่งานภูมิทัศน์ข้างทางหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ห้วยมงคล และทหารจากโรงเรียนนายสิบทหารบก ช่วยกันติดตั้งป้ายสัญญาณเตือนจุดอันตราย ป้ายเตือนลดความเร็ว และป้ายบอกทาง โดยพบว่า มีจุดอันตราย 3 จุด ได้แก่ กม.34+100 หน้าที่ว่าการอำเภอหัวหิน สี่แยกหนองไผ่ กม.39+200 และสี่แยกทับใต้-ห้วยมงคล หรือสี่แยกตลาดน้ำ กม.35+500 ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายที่สุด เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเส้นทางตัดสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ อ.หัวหิน ได้แก่ วัดห้วยมงคล และตลาดน้ำสามพันนาม
เมื่อนักท่องเที่ยวขับรถมาถึงบริเวณนี้จะเกิดความสับสนต่อปริมาณรถในเส้นทางสายหลัก และสายรอง จนเกิดการแย่งชิงเพื่อให้ได้ขับรถข้ามเส้นทางก่อน เพราะยังไม่มีสัญญาณไฟจราจร ทำให้เกิดอุบัติเหตุนับครั้งไม่ถ้วน เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นเส้นทางเพื่อลดการตัดกระแสรถที่ใช้ความเร็ว และให้ไปกลับรถห่างไป 1-3 กิโลเมตร ทั้งด้านเหนือ และใต้
นายสุวิวัฒน์ พรหมมา หัวหน้าหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตำรวจทางหลวง คอยประจำจุดเพื่อให้สัญญาณ และอำนวยความสะดวก ซึ่งวิธีนี้ประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ทำให้แยกตลาดน้ำไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเลย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนประชาชน และนักท่องเที่ยวขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ประกอบกับใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิระหว่าง 35-37 องศาเซลเซียล ผู้ขับขี่อาจเกิดความเครียด และเหนื่อยล้าขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว จนอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้น ควรหยุดพักรถบ่อยๆ ตามจุดพักรถ หรือปั๊มน้ำมัน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนคลายความเหนื่อยล้า