กำแพงเพชร - วอนคนใจบุญช่วยเหลือด่วน สาวเมืองกล้วยไข่สอบติดคณะเภสัชฯ มหาวิทยาลัยนเรศวรแต่ไม่มีเงินลงทะเบียนเรียน เผยเป็นเด็กกตัญญู รับจ้างเสียบมัน-หักข้าวโพดเลี้ยงยายกับน้องชายเพียงลำพัง ขณะที่แม่ย้ายไปอยู่อีสาน รู้ข่าวรีบกลับมาประกาศขายที่นามรดกตกทอดยังถูกกดราคาซ้ำอีก
น.ส.ศิริวรรณ กระต่ายทอง หัวหน้าฝ่ายวิชาการ โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเด็กที่เรียนจบ ม.6 แล้วสามารถสอบเข้าคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร น.ส.จิราพร ภักสุวรรณ์ อายุ 18 ปี แต่เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน อาศัยอยู่กับยายวัย 86 ปี พร้อมกับน้องชายอีกคน ไม่มีแม้แต่เงินที่จะมอบตัว จนแม่ต้องประกาศขายที่นาสมบัติชิ้นสุดท้ายเพื่อหาเงินให้ลูกได้เรียน แต่ยังไม่สามารถขายได้ จึงวอนขอความเมตตาจากผู้ใจบุญหยิบยื่นน้ำใจช่วยเหลือ
น.ส.จิราพร ภักสุวรรณ์ อายุ 18 ปี นักเรียนคนดังกล่าว อาศัยอยู่กับนางเทือง กล้วยคำ อายุ 86 ปี ผู้เป็นยาย ในบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สภาพเก่า เลขที่ 79 หมู่ 4 บ้านหนองกอง ต.นาบ่อคำ อ.เมืองกำแพงเพชร
นางเทือง ผู้เป็นยายของ น.ส.จิราพร เล่าให้ฟังว่า ตนเองไม่มีอาชีพอะไร และมีเพียงหลานสาวคือ น.ส.จิราพร เท่านั้นที่เลี้ยงดูตนเองในปัจจุบัน ลูกที่เคยอยู่ด้วยกันต่างก็แยกย้ายไปมีครอบครัวยังต่างจังหวัด ส่งเงินมาให้เป็นค่าใช้จ่าย และค่าเล่าเรียนของ น.ส.จิราพร เฉลี่ยเดือนละประมาณ 1 พันบาท แต่ก็นับว่าโชคดีที่โรงเรียนฯ ได้ให้ความอนุเคราะห์ดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ที่พัก อาหารการกิน จึงทำให้หลานสาวมีความมุมานะ และตั้งใจที่จะเรียนต่อเพื่อหางานทำมาเลี้ยงดูตนเองในอนาคต
“พอรู้ข่าวว่าหลานสาวสอบติดมหาวิทยาลัยฯ ก็ดีใจ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะนำเงินตรงไหนมาส่งเสียให้ได้เล่าเรียน”
น.ส.จิราพรเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่เธอจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร แล้วสอบติดหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต สาขาบริบาลเภสัชกรรม ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เบื้องต้นที่ทราบข่าวก็ดีใจไม่แตกต่างจากคนอื่นที่เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังๆ ได้
แต่สิ่งที่ตามมาคือ วันนี้แม่ของตนเองคือ นางจรินญา สีสมุทร อายุ 44 ปี ซึ่งได้สามีใหม่อยู่ที่ภาคอีสาน ได้เดินทางกลับมาหาตนเพื่อที่จะหาหนทางช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นแม่ได้ประกาศขายที่นาที่บ้านเกิดนครสวรรค์ จำนวน 9 ไร่ ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เป็นมรดกตกทอด เพื่อที่จะนำเงินมาส่งเสียเป็นทุนได้เล่าเรียน แต่ก็ถูกกดราคายังขายไม่ได้
น.ส.จิราพรกล่าวว่า ที่ผ่านมานอกจากเงินที่แม่ส่งมาให้เดือนละ 1 พันบาทที่เป็นค่าเลี้ยงดูยายและค่าใช้จ่ายในการเรียนที่ผ่านมานั้น ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ตนก็ออกไปรับจ้างเสียบมัน และหักข้าวโพด เป็นรายได้เสริมอีกวันละ 250 บาท ก็พอจุนเจือดูแลยาย และน้องชายให้มีชีวิตอยู่ได้ไปวันๆ เท่านั้น
“เปิดเทอมนี้ต้องลงทะเบียนครั้งแรก 2 หมื่นบาท อนาคตยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำกันอย่างไร ที่นาจะขายได้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางครั้งก็ท้อแท้ และอดที่จะสงสารแม่และยายไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้าสามารถผ่านพ้นวิกฤตชีวิตตรงนี้ได้แล้วก็เชื่อว่าจะหาเงินเพื่อเลี้ยงดูแม่และยายให้ดีที่สุด”
นางเทือง ผู้เป็นยายของ น.ส.จิราพร ยังกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าในตอนท้ายอีกว่า สงสารหลานสาวของตนเองเสียเหลือเกิน แต่โดยลำพังตนเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว หากผู้ใจบุญมีความเมตตาให้ฝันของเธอได้เป็นจริง สามารถให้ความช่วยเหลือได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขากำแพงเพชร บัญชีเลขที่ 620-0-72342-7 น.ส.จิราพร ภักสุวรรณ์ หรือโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ 09-0149-2655