แม่วอนผู้ใจบุญช่วยรักษายื้อชีวิตลูกหลังป่วยมะเร็งพิการตาบอดสนิท

อุดรธานี - วอนช่วยเหลือเด็กชายวัย 9 ขวบ ชาวอำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ครอบครัวฐานะยากจน ป่วยมะเร็งที่ดวงตาตั้งแต่เด็ก เผยแนวทางรักษาต้องควักดวงตาทิ้งรักษาชีวิต แพทย์โรงพยาบาลเพ็ญ รับเป็นผู้ป่วยอนาถา แต่ต้องส่งตัวรักษาฉายรังสีที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น แม่วอนผู้ใจบุญช่วยยื้อชีวิตลูก

วันนี้ (7 เม.ย.) ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเพ็ญ จ.อุดระานี แจ้งว่า ที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 15 บ้านโนนสมบูรณ์ ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี มีเด็กชายป่วยด้วยโรคมะเร็งตา ทำให้ต้องควักลูกตาออก 2 ข้าง อาศัยอยู่กับแม่ซึ่งมีฐานะยากจน จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงพบเป็นบ้านชั้นเดียวก่อด้วยอิฐบล๊อกไม่ฉาบปูน หลังคามุงสังกะสี พบ นางพงษ์รัตน์ ราชาทัต อายุ 42 ปี และ ด.ช.อานนท์ เว้นบาป อายุ 9 ปี พร้อมญาติ และเพื่อนบ้านกำลังนั่งเล่นที่หน้าบ้าน

นางพงษ์รัตน์ ราชาทัต เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ตนเองแต่งงานอยู่กินกับนายประสพ เว้นบาป อายุ 51 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน คนโต และคนที่ 2 แต่งงานแยกครอบครัวไปอยู่ที่ต่างจังหวัด เหลือคนที่ 3 อายุ 9 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็งลูกตา ทำให้ต้องควักลูกตาออกทั้ง 2 ข้าง นอกจากนี้ ตนยังต้องเลี้ยงหลาน อีก 1 คน

ทั้งนี้ ด.ช.อานนท์ เป็นลูกคนที่ 3 โดยหลังจากคลอดมาได้ 3 เดือน สังเกตว่าที่ตาลูกชายมีอาการผิดปกติ และลูกชายจะร้องไห้งอแงตลอดเวลา จึงนำลูกไปให้พระ และคนเฒ่าคนแก่ภายในหมู่บ้านผูกข้อมือเรียกขวัญ แต่ลูกก็ไม่หาย ยังคงร้องไห้เหมือนเดิม จึงพาลูกไปพบแพทย์ที่ทำคลอดโรงพยาบาลเพ็ญ ซึ่งแพทย์ได้นำตัวส่งต่อไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลอุดรธานี

โดยแพทย์ได้วินิจฉัยว่า น่าจะเป็นมะเร็งที่ตาแต่ไม่แน่ใจ จากนั้นทางโรงพยาบาลอุดรธานี จึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ที่จังหวัดขอนแก่น ภายหลังแพทย์ทำการตรวจกว่า 1 เดือน พบว่า เป็นมะเร็งที่ลูกตาซ้าย จำเป็นต้องเอาควักลูกตาออก หากไม่เอาออกลูกจะตาย ตนจึงอนุญาตให้ผ่าตัดเอาลูกตาออก

นางพงษ์รัตน์ กล่าวต่อว่า ภาพหลังจากการรักษานานกว่า 5 ปี ด.ช.อานนท์ เริ่มมีอาการเจ็บที่ตาด้านขวาอีกครั้ง และที่ดวงตามีสีขุ่นมัว จึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อตรวจรักษาอีก โดยแพทย์ได้วินิจฉัยว่า เป็นมะเร็งต้องควักลูกตาออกอีก แต่ครั้งนี้ตนไม่ยอมจึงพาลูกชายกลับ พอมาอยู่ได้ 1 เดือน อาการน้องเริ่มทรุดหนัก และไม่ดีขึ้น

จึงตัดสินใจไปผ่าตัดเอาลูกตาออก ระหว่างนั้น ด.ช.อานนท์ ต้องเข้ารับการรักษาด้วยคีโมบำบัด แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จึงพักการรักษาแบบคีโม โดยทุกเดือนตนจะพา ด.ช.อานนท์ ลงไปตรวจตาทุก 1 เดือน ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ตามแพทย์นัด โดยแพทย์ได้บอกว่า โรคมะเร็งขั้นนี้ลูกชายตนจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึง 3 ปี แต่ถ้าได้กำลังใจที่ดีเด็กก็จะมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ ด.ช.อานนท์ ป่วยมาตนต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อฉายรังสีเดือนละ 2 ครั้ง ต้องใช้เงินเป็นค่าเดินทางครั้งละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท เพราะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวัน ส่วนค่ายา และค่ารักษาพยาบาลทางโรงพยาบาลเพ็ญ ได้อนุเคราะห์ค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด โดยได้ทำหนังสือส่งตัวเป็นคนไข้อนาถาของโรงพยาบาลเพ็ญ

“ทราบว่าค่ายา และฉายรังสีตกครั้งละหลายหมื่นบาท ลูกถึงมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ และลูกเป็นเด็กสดใส ร่าเริง ยังเล่นกับเด็กทั่วไปตามปกติ ไม่เหมือนคนตาบอด และมีความสามารถพิเศษ ถึงจะตาบอดทั้ง 2 ข้าง แต่ลูกชายก็สามารถขี่จักรยานได้” นางพงษ์รัตน์ กล่าว

ด้วยความยากจน พ่อต้องทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้าง ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท จึงอยากขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ช่วยหาทางออกให้ครอบครัวตน หรือช่วยบริจาคค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล และค่าเดินทางไปฉายรังสีที่ จ.ขอนแก่น

โดยสามารถโอนเงินช่วยเหลือ ด.ช.อานนท์ ได้ที่ชื่อบัญชี นางวรรณเจต เพื่อ ด.ช.อานนท์ เว้นบาป เลขที่บัญชี 169 2 20906 6 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี หัวหมาก กรุงเทพมหานคร