xs
xsm
sm
md
lg

บุรีรัมย์แล้งร้อนจัด กระทบไม้ดอกไม้ประดับเหี่ยวแห้งตายขาดทุน ซ้ำยอดขายลดฮวบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภัยแล้งและอากาศร้อนจัดกระทบร้านขายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับและไม้ผลในจ.บุรีรัมย์ เหี่ยวเฉาแห้งตายประสบปัญหาขาดทุนต้องแบกรับภาระรดน้ำมากขึ้น และยอดขายลดลงกว่าครึ่ง วันนี้ ( 6 เม.ย.)
บุรีรัมย์ - ภัยแล้งและอากาศร้อนจัดกระทบร้านขายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับและไม้ผลใน จ.บุรีรัมย์เหี่ยวเฉาแห้งตาย ประสบปัญหาขาดทุน และต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายรดน้ำต้นไม้ไม่ให้เหี่ยวเฉาตายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ซ้ำยอดขายลดลงกว่าครึ่ง เพราะหน้าแล้งลูกค้าประชาชน สนใจซื้อไปปลูกน้อย

วันนี้ (6 เม.ย.) สถานการณ์ภัยแล้งที่คุกคามอย่างต่อเนื่องประกอบกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงบ่ายมีอุณหภูมิสูง 38-40 องศาเซลเซียส ทำให้ส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับและพันธุ์ไม้ผลเกือบ 20 ร้าน ที่วางขายอยู่บริเวณริมถนนสายเลี่ยงเมืองในเขตเทศบาลตำบลอิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ใกล้กับพระบรมราชาอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ทำให้ต้องฉีดพรมน้ำดูแลรักษาต้นไม้เพิ่มขึ้นวันละ 2-3 ครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้พันธุ์ไม้เหี่ยวเฉาและแห้งตาย จากปกติช่วงหน้าหนาวและหน้าฝนจะรดน้ำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ผลกระทบดังกล่าวทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายค่าน้ำที่ต้องฉีดพรมพันธุ์ไม้เพื่อป้องกันไม่ให้เสียหายเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว จากปกติเสียค่าน้ำเดือนละ 400-500 บาท

และถึงแม้จะรดน้ำวันละหลายรอบแต่ก็ยังมีพันธุ์ไม้หลายชนิดที่สั่งมาไว้จำหน่ายทนสภาพอากาศที่แห้งแล้งและร้อนจัดในช่วงนี้ไม่ได้ทยอยเหี่ยวเฉาแห้งตาย เช่น กุหลาบ มะม่วง และไม้ประดับหลายชนิด ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องประสบปัญหาขาดทุน

นางสำรวย อาญาเมือง เจ้าของร้านจำหน่ายพันธุ์ไม้รายหนึ่ง บอกว่า ช่วงหน้าแล้งนอกจากต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาพันธุ์ไม้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้รายได้จากการจำหน่ายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับและไม้ผลกลับลดลงจากที่เคยขายได้วันละ 4,000-5,000 บาท ช่วงนี้เหลือไม่ถึงวันละ 2,000 บาท เนื่องจากช่วงหน้าแล้งประชาชนหรือลูกค้าขาประจำที่เคยซื้อพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับไปจัดสวน ตกแต่งบ้านและอาคารสำนักงาน จะไม่นิยมซื้อไปปลูกเหมือนกับช่วงหน้าฝน




กำลังโหลดความคิดเห็น