ตาก - อุทาหรณ์เตือนใจคนใช้รถใช้ถนนช่วงสงกรานต์ คนขับรถบัสขนแรงงานพม่ากว่าครึ่งร้อย มุ่งหน้าถนนสายตาก-แม่สอด ก่อนถึงโค้งเกิดเบรกไม่อยู่ โชคดีคนขับตัดสินใจหักพวงมาลัยพุ่งขึ้นทางหยุดฉุกเฉินสำเร็จ ผู้โดยสาร คนขับ พนักงานรถปลอดภัยทุกคน รถเสียหายเล็กน้อย
วันนี้ (6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู (RKU News) รวมถึงเครือข่ายกู้ภัยภาคเหนือ ได้แชร์ภาพ-ข้อมูลของ “คนสู้ภัยตาก” เกี่ยวกับเหตุการณ์ “นาทีชีวิต! ความรับผิดชอบต่อชีวิตคนส่วนรวม กับนาทีการตัดสินใจของคนขับรถบัสบนเส้นทางตาก-แม่สอด” ซึ่งถือเป็นอุทาหรณ์เตือนใจการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 58 ที่กำลังจะมาถึงนี้
โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (5 เม.ย.) ตำรวจสายตรวจมูเซอ ได้รับแจ้งจากห้องสื่อสาร สภ.พะวอ ให้ตรวจสอบรถบัสที่พุ่งขึ้นไปจอดบนช่องทางหยุดรถฉุกเฉินก่อนถึงโค้งอันตราย เมื่อไปถึงพบรถบัสรับเหมาผู้โดยสารขึ้นไปหยุดที่จุดเบรกแนวกั้นสุดทางช่องทางหยุดรถฉุกเฉินก่อนทางโค้งอันตราย
สอบถามนายทรงพล ศรีสมาน 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/44 ม.7 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา คนขับบอกว่า ได้รับผู้โดยสารชาวพม่า 52 คนมาจากปั๊มคาลเท็กซ์ อ.เมือง จ.ตาก เพื่อไปส่งที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ ระบบปั๊มลมเบรกหมดไม่สามารถเบรกรถได้ ขณะที่ข้างหน้าเป็นโค้งและเหวลึก จึงได้ประคองรถขึ้นทางหยุดฉุกเฉิน
เบื้องต้นสภาพรถเสียหายเพราะแรงกระแทกแนวกั้น และด้านข้างที่ครูดกับขอบทางเท่านั้น แต่ผู้โดยสาร 52 คน พนักงานและคนขับอีก 3 คน รวมเป็น 55 คน ปลอดภัยดีทุกคน ซึ่งถือว่าคนขับรถบัสสามารถประเมินสถานการณ์ และมีสติมากพอที่จะควบคุมรถให้เข้าสู่จุดจอดฉุกเฉินได้ เพราะหากคนขับเกิดตัดสินใจผิดพลาด หรือขาดสมาธิแล้วอาจเกิดโศกนาฏกรรมหมู่ขึ้นอีกครั้งก็เป็นได้ เนื่องจากเส้นทางสายตาก-แม่สอด เป็นเส้นทางขึ้นเขาลาดชัน เคยเกิดอุบัติเหตุหมู่สร้างความสูญเสียมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีการตั้งจุดบริการร่วม ตำรวจภูธร ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ทหาร ขนส่ง และแขวงการทางตากที่ 1 บริเวณดอยรวก เพื่อให้บริการประชาชน พร้อมกับตรวจจับผู้ฝ่าฝืน สัญญาณ ป้ายเตือน เครื่องกั้นทาง ที่มีไว้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยกำหนดโทษปรับสูงสุดตามกฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์