เชียงราย - เจ้าหน้าที่ นรข.-ตม.สกัดจับรถขนแรงงานต่างด้าวจากชายแดนแม่สาย ก่อนขยายผลค้นแหล่งพักที่เชียงของ รอนายทุนมารับต่อส่งเข้าโรงงานที่เชียงใหม่ เผยเริ่มทำมาตั้งแต่ ก.พ. ขนกันมาแล้วเกือบพันคน
น.อ.ภาณุ รัตนนันทวาที ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย พ.ต.ท.สืบพงษ์ วิสูตรธนาวิทย์ สารวัตรสืบสวน ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน พ.ต.ท.ชิติพันธ์ ยางเสวย สารวัตรสืบสวน ตม.เชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่วางกำลังตามเส้นทางบ้านสันมะเค็ด-หนองหลวง ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน คืนที่ผ่านมา (2 เม.ย.)
หลังสืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวไปพักไว้ที่บ้านเช่าข้างหนองหลวง เขตบ้านหนองหลวง เพื่อเตรียมจะส่งต่อไปทำงานที่โรงงาน จ.เชียงใหม่
ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน กม 5732 เชียงราย มีหลังคาแครี่บอย ขับนำหน้ารถกระบะมาสด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บธ 5411 เชียงราย มุ่งหน้าจะเข้าไปทางหนองหลวง เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดตรวจรถทั้ง 2 คัน พบนายสมบัติ แสงคำ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.1 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย เป็นคนขับรถนำทาง และนายสาม บำรุงไทย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/ช ม.4 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขับรถตาม ตรวจสอบภายในกระบะรถกระบะคันที่ 2 พบแรงงานต่างด้าวทั้งชายและหญิงรวม 14 คนพร้อมกระเป๋าเดินทาง เจ้าหน้าจึงควบคุมตัวเอาไว้
สอบสวนขยายผลยังมีแรงงานต่างด้าวอีกจำนวนหนึ่งหลบซ่อนอยู่ในบ้านเช่าที่หนองหลวง จึงแบ่งกำลังไปตรวจสอบ พบเป็นบ้านของนางบัวคำ แสงคำ อายุ 63 ปี เลขที่ 74/ช ม.1 ต.ริมโขง อ.เชียงของ ภายในมีคนต่างด้าวลักษณะเดียวกันอยู่อีก 26 คน เจ้าหน้าที่จึงนำทั้งหมดไปสอบสวนที่ด่าน ตม.เชียงแสน
เบื้องต้นนายสมบัติให้การรับว่า ขนคนงานต่างด้าวทั้งหมดมาจากชายแดน อ.แม่สาย และให้คนทั้งหมดทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวข้ามมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ก่อนนำไปพักที่หนองหลวง รอให้นายทุนมารับแลกกับค่าขนหัวละ 100 บาท ซึ่งเริ่มทำมาตั้งแต่เดือน ก.พ. 58 รวมขนแรงงานต่างด้าวไปแล้วประมาณ 800 คน
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหานายสาม นายสมบัติ และนางบัวคำ ว่านำพา ซ่อนเร้น ช่วยเหลืออุปการะแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการถูกจับกุม
น.อ.ภาณุกล่าวว่า ช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์แรงงานต่างพากันกลับบ้าน โรงงานขาดแคลนแรงงาน ทำให้มีกลุ่มนายหน้าจัดหาแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านส่งตามโรงงาน คิดค่าหัวคนละ 3,000-5,000 บาท ส่วนคนขนคงได้รับลดหลั่นกันลงไป ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวใน อ.เชียงแสนได้เกือบ 100 คน โดยกลุ่มนั้นจะลักลอบไปทำงานที่กรุงเทพฯ
