อธิบดีกรมน้ำจี้เร่งขุดลอกบึงสีไฟให้เสร็จก่อนฝนมา ยันเลิกคิดสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแล้ว

พิจิตร - อธิบดีกรมน้ำลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้างานลอกบึงสีไฟ พบคืบหน้ากว่า 80% แล้ว พร้อมกำชับผู้รับเหมาเร่งมือให้เสร็จก่อนหน้าฝนตามสัญญา ย้ำวันนี้ทุกฝ่ายเลิกคิดสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแล้ว แต่หันไปพัฒนาแก้มลิงกักน้ำแก้น้ำท่วมภัยแล้งแทน

วันนี้ (2 เม.ย.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ภายหลังมาตรวจราชการในการขุดลอกบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร ร่วมกับนายสมนึก สุขช่วย ผอ.สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ, นายยรรยง อินทฤทธิ์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 9 ว่า ขณะนี้งานขุดลอกบึงสีไฟ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำใหญ่อันดับ 3 ของไทย ภายใต้งบประมาณ 48 ล้านบาทเศษ คืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว

นายจตุพรกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ผู้รับเหมา คือ บริษัทวงษ์สระหลวงก่อสร้างว่า ต้องทำงานให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนตามสัญญาเพื่อให้พื้นที่ในโครงการสามารถรับน้ำได้ โดยเชื่อมั่นว่าบึงสีไฟจะสามารถรับน้ำได้เพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้แก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งได้ระดับหนึ่ง รวมถึงจะให้มีการปลูกดอกบัวแดงและดอกบัวนานาชนิดให้มีทัศนียภาพสวยงามและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว

กรณีปัญหาที่มีผู้ร้องเรียนเรื่องการทิ้งดินผิดที่ผิดทางไม่ตรงตามสัญญาก็ได้สั่งการให้แก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งผู้รับเหมารับทราบและจะรับไปแก้ไข

ส่วนเรื่องการบริหารจัดการบึงสีไฟ ซึ่งมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้ปรึกษากับ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ว่า ต่อไปในการพัฒนาบึงสีไฟจะต้องให้ผู้ว่าฯ พิจิตรเป็นประธาน โดยให้ทำในลักษณะองค์กร ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรเป็นศูนย์กลาง ใครจะมาทำอะไรในบึงสีไฟต้องบอกกล่าว และได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าฯ พิจิตร เพื่อให้งานเชื่อมต่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำอย่างในอดีตที่ผ่านมา

นายจตุพรบอกว่า จะนำแนวทางดังกล่าวเรียนถึง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รอง ผบ.ทบ.ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ เพื่อขอความเห็นชอบให้เป็นแนวทางปฏิบัติในการพัฒนาบึงสีไฟต่อไปด้วย

นายจตุพรยังได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวในเรื่องการแก้ปัญหาแบบยั่งยืนในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ว่า ยืนยันว่าทุกท่านที่เป็นคณะทำงานไม่มีความคิดเรื่องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นอีกต่อไปแล้ว แต่มีความคิดในเรื่องการสร้างแก้มลิงขนาดใหญ่ในพื้นที่พะเยา แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก และพิจิตร ซึ่งขณะนี้ทำไปแล้ว 10 กว่าแห่ง และใช้ประโยชน์ได้จริง

ดังนั้น โครงการในอนาคตในการแก้ปัญหาน้ำท่วมภัยแล้งพื้นที่ลุ่มน้ำยมก็จะทำต่อไปอีก โดยมุ่งเน้นการสร้างแก้มลิง หรือขุดลอกห้วยหนองคลองบึง และที่ดินสาธารณะที่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อให้เป็นที่รับน้ำ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม และเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร โดยเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้มากที่สุดแทน