xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! พบ"อากง"นอนกับศพ"อาม่า"ภรรยานานกว่าสิบเดือนพิสูจน์รักแท้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครปฐม - อึ้งสุดๆ "อากง"นอนกับศพ "อาม่า" ภรรยาสุดที่รักหลังเสียชีวิตมาแล้วกว่า 10 เดือน จนชาวบ้านได้กลิ่นศพแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบส่ง จนท.เข้าไปตรวจสอบถึงกับผงะ! เมื่อพบศพอาม่านอนอยู่ในมุ้งบนที่นอนกับอากง ขณะที่อากง เผยกินนอนอยู่กับศพภรรยาตามปกติเหมือนสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยกัน หลังภรรยาเสียชีวิตแล้วได้สั่งเสียก่อนตายอย่าไปรบกวนขาวบ้านจัดงานศพให้เพราะยากจน จึงไม่ยอมบอกใคร ด้านผู้พบเห็นถึงกับน้ำตาไหลในความรักของ "อากง" กับ "อาม่า" คู่นี้

วันนี้ (1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมออนไลน์ ชื่อ Jeab Naka ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อเวลา 15.34 น.วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา นายวัชรินทร์ รัตบรรณกิจ นายอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาความยากจนไม่มีเงินเผาศพภรรยาและได้นำมานอนด้วยเป็นเวลาหลายเดือนภายในบ้านเลขที่ 47 ม.2 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยยังไม่ได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนา

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ดังกล่าวพบกับนายเทวา มีใจบุญ อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านพักหลังดังกล่าวเนื่องจากได้กลิ่นศพโชยออกมาจากบริเวณดังกล่าว ตนจึงได้แจ้งไปยังนายอำเภอนครชัยศรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบ ปรากฎพบนายยม จู่ยืนยง อายุ 76 ปีเจ้าของบ้าน และศพ น.ส.ซกกี จู๋ยืนยง อายุ 82 ปีภรรยาของนายยม อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวด้วยกัน

นายเทวา บอกว่า ตนได้เห็นอากงเตี้ย หรือนายยม กับอาม่าซกกี หรือ น.ส.ซกกี อาศัยอยู่ในบ้านพักหลังนี้มานาน และก่อนเกิดเหตุตนก็เห็นอากงเตี้ย ยังคงอยู่เป็นปกติดี แตไม่เห็นอาม่าซกกี เมียของอากงเตี้ย มานานหลายเดือนแล้ว เมื่อพบหน้าตนก็จะสอบถามว่า อาม่าซกกี ไปไหน ไม่เห็นอยู่บ้าน อากงเตี้ย ก็จะบอกว่า อาม่าซกกี ได้ย้ายไปอยู่กับลูกชายที่ จ.ชัยภูมิ

ต่อมาตนได้ประสานไปที่นายณรงค์ คงยั่งยืน อายุ 49 ปี นายก อบต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี เพื่อให้ติดต่อไปยังนายอนุสิทธิ์ จู๋ยืนยง อายุ 44 ปี ลูกชายของอากงเตี้ย กับ อาม่าซกกีว่า มารดามาอยู่ด้วยหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า แม่ไม่ได้มาอยู่ด้วยนานแล้ว จึงมีข้อสงสัย และเข้าตรวจสอบกระทั่ง อากงเตี้ย ยอมรับสารภาพว่า อาม่าซกกี ภรรยาได้เสียชีวิตด้วยโรคชราไปแล้วตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.57 เวลา 13.10 น. แต่ไม่ได้บอกใคร และยังคงนอนอยู่ร่วมห้องกับภรรยาเอาอาหาร ข้าว น้ำ ขนมเครื่องดื่มให้ภรรยากินทุกเช้า

"อากงเตี้ย แก่บอกว่าที่ไม่บอกให้ใครทราบเพราะภรรยาสั่งไว้ว่า ถ้าตายไม่ต้องสวด ไม่ต้องเผา ไม่ต้องบอกใคร เพราะจะเป็นการรบกวนชาวบ้าน อากงเตี้ย จึงปูเสื่อและกางมุ้งนอนอยู่กับภรรยาตามปกติที่เคยทำกันมาตลอดช่วงการครองคู่ชีวิตมาด้วยกันมากว่า 44 ปี และอาม่าซกกี นั้นป่วยพิการทางสายตามานานหลายปีโดยมีบุตร 1 คน แยกย้ายไปอยู่กับภรรยาที่ชัยภูมิหลายปีแล้ว และไม่คิดว่าจะมีคนรู้ แต่ก็มีชาวบ้านมาทราบข่าวจนได้"

ด้านอากงเตี้ย หรือนายยม จู๋ยืนยง เล่าว่า ตนกับอาม่าซกกี ยึดอาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ก็มีความยากจนมาเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต แต่ไม่เป็นปัญหาในการใช้ชีวิตร่วมกัน ขนาดยากจนเท่าไหร่ ถ้าอาม่าซกกี อยากกินกุ้ง แม้จะกิโลกรัมละ 300 บาทตนก็จะพยายามหามาให้กินจนได้ จนถึงวันที่ภรรยาป่วยเดินไม่ได้ ตนก็จะเป็นผู้คนดูแล ป้อนข้าวป้อนน้ำอยู่เคียงข้างเสมอ

"จนเมื่อวันที่ภรรยาได้เสียชีวิตไปผมก็ได้ทำตามคำสั่งเสีย ด้วยการเก็บศพไว้ที่บ้าน แต่ก็ยังเดินออกไปข้างนอกเพื่อไปซื้อ โอวัลติณ ขนม และของที่ภรรยาชอบมาให้ที่ศพทุกวัน ส่วนวันนี้ใครจะเข้ามาช่วยก็ขอบคุณ แต่ก็ยืนยันจะเก็บศพภรรยาไว้แบบนี้จนกว่าผมจะตายตามไปด้วย ส่วนลูกชายจะทำพิธีศพของผมกับอาม่า อย่างไรก็แล้วแต่เขา เพราะความรักที่มีให้อาม่า จะให้แยกไปไหนก็คงไม่ยอม"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบถามไปยังบุตรชายของอากงเตี้ย หรือนายยม จู๋ยืนยง ทราบว่า จะเดินทางกลับมาดำเนินการเรื่องการจัดพิธีศพให้แม่ในวันที่ 5 เม.ย. แต่หลังจากมีกระแสข่าวในโลกโซเชียล ได้มีผู้ที่ชื่นชมและสงสารอากงเตี้ย ประสงค์จะเข้ามาบริจาคเงินสำหรับดำรงชีพต่อไปยามชรา และตรียมจะนิมนต์พระมาสวดพระอภิธรรมให้ที่บ้านพักของคนทั้งคู่ ซึ่งเรื่องราวความรักของคู่รักอมตะคู่นี้ บางคนทราบข่าวถึงกับร้องไห้ หลายคนพยายามจะเข้าไปหาเพื่อช่วยเหลือและให้กำลังใจสำหรับความรักของคู่รักคู่นี้จนเป็นตำนานรักคู่หนึ่ง

โดยผู้ที่ประสงค์จะมอบเงินช่วยเหลืออากงเตี้ย ก็สามารถบริจาคได้ที่บัญชีออมทรัพย์ธนาคาร กสิกรไทย สาขาเทสโกโลตัส นครชัยศรี นายยม จู๋ยืนยง เลขบัญชี 859-2-19365-6





กำลังโหลดความคิดเห็น