เชียงใหม่ - ตำรวจ ทหารบุกตรวจพิสูจน์ หลังมีกระแสข่าวอดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยดินจี่ฝังศพทารกไว้ใต้ฐานพระพรหม-ทำเครื่องรางของขลังขายผ่านเว็บไซต์ แต่ถูกชาวบ้านคัดค้านสุดท้ายต้องยกเลิก แต่ยืนยันมีพระหลายวัดในเชียงใหม่ใช้กะโหลกคน-ศพทารกทำเครื่องรางขาย
วันนี้ (31 มี.ค.) พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเข้าตรวจพิสูจน์บริเวณใต้ฐานพระพรหม ภายในวัดห้วยดินจี่ หมู่บ้านสันนกแก้ว หมู่ 5 ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ หลังมีชาวบ้านร้องเรียนพระเฉลิม อดีตเจ้าอาวาสวัดรูปก่อน นำซากทารกมาฝังไว้ใต้ฐานพระพรหมเพื่อทำพิธีทางไสยศาสตร์ และประกาศขายเครื่องรางของขลังด้านเมตตามหานิยมผ่านทางเว็ปไซต์ ราคาตั้งแต่ 600-6,000 พันบาท ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มชาวต่างชาติ
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบชาวบ้านและรักษาการเจ้าอาวาสคัดค้านไม่ให้มีการขุดหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อ้างจะทำให้เกิดความเสียหาย และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยได้ยินข่าวมาก่อนว่ามีการฝังซากทารกไว้ ทำให้ทางวัดได้รับความเสียหาย
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ตำรวจเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ต้องมีการตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริง หากขุดพบซากทารกจริงต้องมีการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลว่ามีการแจ้งหายหรือไม่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
ซึ่งมีชาวบ้านหลายคนที่มีส่วนดำเนินการตามข้อร้องเรียนก็ต้องสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันยังมีวัดอีกหลายแห่งในเชียงใหม่ที่ทางพระสงฆ์นำกะโหลกมนุษย์หรือซากทารกมาทำพิธีปลุกเสก ทำเครื่องรางของขลังประกาศขายทางเว็บไซต์ให้ชาวต่างชาติ ซึ่งต้องมีการดำเนินการต่อไปทั้งหมด
ด้านพระประพันธ์ ประภัสโร รักษาการเจ้าอาวาส วัดห้วยดินจี่ กล่าวว่า จำพรรษาที่วัดแห่งนี้มานานหลายปี ไม่เคยได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอน หรือเห็นผีอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งการเห่าของสุนัขเป็นเรื่องปกติที่ได้ยินเสียงรถ หรือมีประชาชนมาทำบุญ และศาลาพระพรหม ชาวบ้านได้ร่วมกันทำบุญบริจาคเป็นเงินหลายแสนบาทกว่าจะสร้างมาได้เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจ ก็ขึ้นอยู่กับศรัทธาประชาชนที่ส่วนใหญ่ไม่ให้มีการรื้อถอน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจากับชาวบ้าน กระทั่งผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงยอมยกเลิกการตรวจสอบ โดยจะติดตามนายเฉลิมอดีตเจ้าอาวาสวัดมาชี้จุดอีกครั้ง ทำให้ทางชาวบ้านต่างพากันดีใจและสลายตัวกลับบ้าน