พระนครศรีอยุธยา - ลมพายุฝนกระหน่ำพระนครศรีอยุธยา เสียหายหนัก เสาไฟขนาดเล็ก-ใหญ่ล้มกว่า 50 ต้นล้มระเนระนาด ทับรถยนต์และบ้านเรือนประชาชนเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย การจราจรติดขัดกว่า 10 กิโลเมตร
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เกิดลมพายุพัดอย่างหนักทำให้เสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์ และบ้านเรือนประชาชนได้เสียหายหลายสิบหลังคาเรือนในพื้นที่ ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดเดินทางตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบว่าบริเวณริมถนนเส้นราชคราม-บางไทร ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน พบเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ล้มกว่า 40 ต้น ทับต้นไม้ศาลาริมทางเสียหาย มีเพิงพักคนงานยาวหลายสิบห้องได้รับความเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์กระบะ 2 คัน ของคนงานก่อสร้างที่จอดข้างทางริมถนนถูกเสาไฟฟ้าล้มทับสภาพยับเยิน
จากการตรวจสอบพบว่า ภายในชุมชนบริเวณใกล้เคียง พบบ้านเรือนได้รับความเสียหายอีกหลายสิบหลังคาเรือน พบที่บ้านเลขที่ 26/1 ม.11 ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน นางสมหมาย นราพันธ์ อายุ 49 ปี กล่าวว่า ตนเองทำงานอยู่มีคนโทร.ไปบอกว่าลมพายุฝนพัดแรง หลังคาบ้านปลิวว่อน จึงรีบเดินทางกลับมาดูบ้านพบว่า หลังคาบ้านที่ปูด้วยกระเบื้องลอยหายไปทั้งหมด ข้าวของเสียหาย กระเบื้องปลิวตกรอบบ้านโชคดีไม่มีใครอยู่เลยไม่ได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ บ้านในละแวกเดียวกันรถยนต์ยังได้รับความเสียหายจากหลังคาที่แตกปลิวตกกระแทกใส่ได้รับความเสียหายอีก 2 คัน เบื้องต้น ทางนายอำเภอบางปะอิน ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความเสียหายทั้งหมดแล้วเพื่อเตรียมให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ การจราจรที่บนถนนสายวงแหวนตะวันตก จากพื้นที่รอยต่อของ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ช่วงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เขต อ.บางไทร และ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หรือวงแวนบางปะอิน ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 82 ก็มีเสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์ตู้ ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวเกือบ 10 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เพราะเกิดพายุพัดถล่มในช่วงเช้าทำให้เสาไฟฟ้าริมถนนวงแหวนตะวันตก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 81-82 ในเขต ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หักโค่นรวม 12 ต้น และกีดขวางการจราจร
นอกจากนี้ พบว่าเสาไฟฟ้าที่หักโค่นเพราะแรงลมพายุได้ทับรถตู้ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คนซึ่ง พ.ต.ท.สมศักดิ์ พลพันขาง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจพระอินทร์ราชา ได้เข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮค 7156 กรุงเทพ ถูกเสาไฟฟ้าทับช่วงหน้ารถจนพังยับเยิน และเจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลือคนเจ็บ 2 คน คือ นายพิษณุ ชูช่วย อายุ 58 ปี เป็นคนขับ และ น.ส.สาวิตรี ชูช่วย อายุ 23 ปี บุตรสาว ซึ่งนั่งมาด้วย
สอบสวนทราบว่า นายพิษณุ พร้อมบุตรสาวขับรถจากบ้านพักเลขที่ 43 หมู่ที่ 1 ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เพื่อมาขายข้าวแกงที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และเจอพายุพัดถล่มจนเสาไฟฟ้าหักโค่นลงมาทับรถยนต์ตู้พอดี โชคยังดีที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไม่มีใครเสียชีวิต
ส่วนเสาไฟฟ้าทั้งหมดตอนนี้การไฟฟ้าได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการยกเสาไฟฟ้าที่หักโค่นขวางถนนออกก่อน เพื่อให้การจราจรใช้การได้ตามปกติ คาดว่าใช้เวลากว่าหลายวันในการซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่โค่นทั้งหมด
