xs
xsm
sm
md
lg

ถกนัดแรกสางปมไนท์บาซาร์เชียงใหม่ พบผู้ค้าถือเกิน-บางรายได้ยกครัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กรรมการจัดระเบียบแผงลอยไนท์บาซาร์ประชุมนัดแรก กรุยทางจัดการตามคำสั่งศาล ฟื้นชื่อเสียงให้โด่งดังอีกครั้ง นายกเล็กบอกมีพื้นที่ตั้งแผงได้ 900 เมตร ใบอนุญาต 883 ใบ แต่ผู้ค้าบางรายถือสิทธิ์กันยกครัว ด้านตัวแทนแม่ค้ายันได้สิทธิ์ถูกต้อง รื้อใหม่ไม่เป็นธรรมแน่

วันนี้ (26 มี.ค.) นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดระเบียบไนท์บาซาร์ครั้งแรก หลังนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามประกาศแต่งตั้งเมื่อวันที่ 23 มี.ค. โดยมีนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการร้านค้าในศูนย์การค้า และพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยย่านไนท์บาซาร์เข้าร่วม

นายชนะกล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ประกอบด้วยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่ระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ การจัดระเบียบ ข้อบังคับ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาย่านไนท์บาซาร์ เพื่อหาแนวขับเคลื่อน และแก้ไขอย่างเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมทั้งกระตุ้นการท่องเที่ยว และฟื้นฟูย่านไนท์บาซาร์ให้กลับมามีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกครั้ง

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการแก้ปัญหาไนท์บาซาร์ที่เกิดขึ้นมานานแล้วอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เบื้องต้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องหันหน้าเข้ามาพูดคุยกันเสียก่อน เพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ไขที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย สำหรับการจัดระเบียบต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง

“เรื่องไหนทำได้ก็ทำไปก่อน ส่วนที่อาจจะยังมีความขัดข้องอยู่บ้าง ในการประชุมคณะกรรมการครั้งต่อไปอาจจะเชิญผู้แทนจากศาลปกครองเชียงใหม่เข้าร่วมด้วยเพื่อรับฟังและให้ข้อคิดเห็นชี้แนะที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ตรงตามคำสั่งของศาลปกครอง”

ด้านนายทัศนัยกล่าวว่า การจัดระเบียบร้านค้าแผงลอยย่านไนท์บาซาร์ของเทศบาลฯ เป็นไปตามคำสั่งของศาลปกครอง หลังจากที่มีผู้ยื่นฟ้องเทศบาลฯ ว่าได้รับความเดือดร้อนจากร้านค้าแผงลอยที่กีดขวางทางเท้า รุกล้ำผิวการจราจร และการเคลื่อนย้ายแผงล้อเข็นกีดขวางทางจราจร รวมทั้งการก่อเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญในช่วงดึกที่เก็บร้าน กระทั่งปลายปี 2556 ศาลปกครองมีคำสั่งให้เทศบาลฯ ต้องดำเนินการแก้ไขจัดระเบียบให้เป็นไปตามคำสั่งศาล

“เทศบาลฯ ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งผู้ค้าแผงลอยไทน์บาซาร์แต่อย่างใด”

สำหรับประเด็นสำคัญที่ต้องมีการพิจารณาร่วมกันคือ ใบอนุญาตที่หมดอายุตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. 58 ซึ่งก่อนหน้านี้เทศบาลฯ ตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการกำหนดพื้นที่และขนาดของแผงลอย และคณะกรรมการกำหนดคุณสมบัติของผู้ค้า ซึ่งคณะกรรมการได้ประชุมไปแล้วเมื่อวันที่ 13 มี.ค. กำหนดขนาดของแผงลอยไว้ที่ความกว้าง 0.9 เมตร และต้องเหลือทางเดินเท้าไว้ไม่ต่ำกว่า 1 เมตร รวมทั้งให้ยกเลิกจุดผ่อนผัน 4 จุดที่เป็นการตั้งแผงค้าบนผิวจราจร และเหลือความกว้างทางเดินเท้าไม่ถึง 1 เมตร และพร้อมจะนำมติจากการประชุมคณะกรรมการจัดระเบียบไนท์บาซาร์ไปใช้ปรับปรุง และเป็นแนวทางในการพิจารณาร่วมด้วย

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบเหลือพื้นที่ให้ตั้งแผงค้าได้ยาวเพียง 900 เมตร ขณะที่จำนวนใบอนุญาตมีอยู่ 883 ใบ ผู้ค้าบางรายมีใบอนุญาตมากกว่า 1 ใบ และบางครอบครัวมีใบอนุญาตทั้งบ้าน ซึ่งหากมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ค้าที่มีสิทธิ์จะได้รับใบอนุญาต โดยยึดหลักให้มีการกระจายสิทธิ์อย่างทั่วถึงแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่ความกว้างของแผงค้าอาจจะเพิ่มมากขึ้น

ด้านนางปุณยนุช แซ่เตีย ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยย่านไนท์บาซาร์ และกรรมการ แสดงความเห็นว่า พร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายในการจัดระเบียบ และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเต็มที่ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้ย่านดังกล่าวนี้กลับมาคึกคักเหมือนในอดีต แต่ไม่เห็นด้วยหากจะมีการยึดสิทธิ์ของผู้ค้าที่มีอยู่เดิมแล้วนำไปจัดสรรใหม่ เพราะเป็นสิทธิ์ที่ได้มาอย่างถูกต้องชอบธรรม โดยที่ทางเทศบาลฯ เป็นผู้มอบสิทธิ์ให้เอง ก่อนที่จะมีการกำหนดกฎระเบียบอื่นๆ ขึ้นมาบังคับใช้ในภายหลัง จึงถือว่าไม่เป็นธรรมหากจะยึดสิทธิ์นั้นคืน และได้เคยนำประเด็นนี้ไปขอคำปรึกษาจากศาลปกครองเชียงใหม่แล้ว

สำหรับกรณีการจัดระเบียบแผงค้าย่านไนท์บาซาร์เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงปี 2557 โดยทางเทศบาลนครเชียงใหม่อ้างว่าต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง ขณะที่กลุ่มผู้ค้าแผงลอยอ้างว่าได้รับความเดือดร้อนจากการจัดระเบียบดังกล่าว เนื่องจากพยายามปฏิบัติตามข้อกำหนดของเทศบาลฯ แล้ว แต่หลายอย่างไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ทำให้กลุ่มผู้ค้าแผงลอยย่านไนท์บาซาร์เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อหลายหน่วยงาน ทั้ง คสช.ผ่านทางมณฑลทหารบกที่ 33 และจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้จัดประชุมหารือร่วมกับทุกฝ่ายหลายครั้ง จนกระทั่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดระเบียบขึ้นมาในที่สุด







กำลังโหลดความคิดเห็น