ลุยสอบนายทุนจ้างคนรุกป่าให้ม้งเข็กน้อยเช่าปลูกขิง ถูกจับกลับรุม จนท.เจ็บ-ชิงตัวผู้ต้องหา

น่าน - เสนาธิการ จทบ.น่านนำทีมสนธิกำลังป่าไม้-ตำรวจกว่าร้อยนายปิดล้อมตรวจสอบ เหตุชาวบ้านลุกฮือรุมทำร้าย จนท.-ชิงตัวผู้ต้องหา หลังถูกจับรุกป่าคาหนังคาเขา พบนายทุนใหญ่ท่าวังผาจ้างคนรุกป่า เปิดพื้นที่ให้ม้งเข็กน้อยเช่าปลูกขิง

วันนี้ (24 มี.ค.) พ.อ.เศรษฐพล เกตุเต็ม เสนาธิการ จทบ.น่าน นำกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกน่าน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายเข้าตรวจสอบเหตุชาวบ้าน ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน ลุกฮือปิดล้อมและทำร้ายเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาตินันทบุรี

ซึ่งเหตุเกิดขึ้นระหว่างนายทองหล่อ วรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาตินันทบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมกลุ่มชาวบ้านขณะบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อเตรียมปลูกไร่ขิง 13 ไร่ บริเวณป่าห้วยขุ่น เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาว-น้ำสวด อุทยานแห่งชาตินันทบุรี ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา พร้อมจับกุมนายเยี่ย แซ่เฮ้อ ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ในที่เกิดเหตุ และตรวจยึดรถไถ 2 คัน ของนายฤทธิ์ ธนะขว้าง ชาวบ้านนาทราย ต.แสนทอง อ.ท่าวังผา ที่ใช้ในการปรับพื้นที่

แต่ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหากับของกลางออกจากพื้นที่ ได้ถูกชาวบ้าน 10 คนปิดล้อม และเกิดการปะทะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ก่อนจะชิงตัวผู้ต้องหาแล้วหลบหนีไป ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ นายชัชวาล เปียงยาง ต้องส่งรักษาตัวโรงพยาบาลท่าวังผา

พ.อ.เศรษฐพลกล่าวว่า พื้นที่บริเวณนี้มีกลุ่มชาวบ้านสบขุ่น บ้านน้ำกาด เขตการปกครอง อ.ปง จ.พะเยา บุกรุกเพิ่มเติมต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้ชาวเขาเผ่าม้งจากบ้านเข็กน้อยมาเช่าปลูกขิง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ว่าการกระทำเช่นนี้ผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้ทราบตัวผู้บงการแล้ว ชื่อนายฤทธิ์ ไม่ทราบนามสกุล เป็นนายทุนใหญ่ อ.ท่าวังผา ที่จ้างชาวบ้านในพื้นที่ให้บุกรุกป่าเพื่อปลูกขิง

ส่วนผู้ที่ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทราบตัวและชื่อแล้ว คือ นายเยี่ยะ แซ่เฮ้อ ชาวเขาเผ่าม้งบ้านเข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมาเช่าทำพื้นที่ปลูกขิง ร่วมกับชาวบ้านอีก 8 คน โดยจะออกหมายเรียกตัวเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากขัดขืนก็จะออกหมายจับต่อไป

หลังจากนั้นเสนาธิการ จทบ.น่าน ยังนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ถูกบุกรุกใหม่ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำกว่า 50 ไร่ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบรายละเอียด หาตัวคนที่มีส่วนร่วมในการบุกรุกพื้นที่ป่าแห่งนี้และดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะปล่อยปละละเลยก็จะบุกรุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีก

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจบ้านต้องสงสัยจากการแจ้งเบาะแสของชาวบ้าน พบเม่นที่เป็นสัตว์สงวนถูกนำมาเลี้ยง 1 ตัว จึงส่งมอบคดีให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการต่อ พร้อมกำชับหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป