พระนครศรีอยุธยา - เทศบาลเมืองอโยธยา นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกรื้อเพิงพักแก๊งโล้นนอกรีต มารศาสนาที่ตั้งกลุ่มตระเวนออกบิณฑบาตเรี่ยไรเงินหลอกลวงชาวบ้าน และมั่วเสพยานรกที่ถูกตำรวจจับกุมตัวไปสึกเมื่อ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่พระผู้ใหญ่ในกรุงเก่า สั่ง จนท.ออกสำรวจพระที่อยู่ตามป่าพื้นที่อยุธยาใช่พระจริงหรือไม่ หวั่นทำศาสนาเสื่อมเสีย
จากกรณีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำกำลังกว่า 10 นาย บุกเข้าตรวจค้นเพลิงพักกลางป่าสะแก หมู่ที่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังได้รับแจ้งว่า มีพระสงฆ์จำนวนมากเข้ามาสร้างเพิงพักอาศัย และเสพยาอยู่ในป่าแห่งนี้
จากการเข้าตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกปลูกเป็นเพลิงพักเล็กๆ มีพระสงฆ์อาศัยอยู่ 8 รูป จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดไว้ พร้อมทั้งตรวจค้นตามเพลิงพักเจ้าหน้าที่พบยาไอซ์จำนวนหนึ่ง และอุปกรณ์การเสพจำนวนมาก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนนำพระทั้งหมดไปทำการสึก พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา วันนี้ (23 มี.ค.) พระครูสิริชัยมงคล รองเจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล และรองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ออกสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา ที่จะเป็นแหล่งแอบทำเพิงพักของกลุ่มคนที่อ้างตัวเป็นสงฆ์ออกบิณฑบาตหลอกลวงชาวบ้านให้ทำบุญ เกรงว่าจะเกิดความเสียหายต่อคณะสงฆ์ และทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย
นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานกับเทศบาลเมืองอโยธยา ให้นำคนงานกว่า 10 คน เข้าไปรื้อถอนเพิงพักที่อยู่อาศัยของกลุ่มพระนอกรีตที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปสึกเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้กลับมาอยู่ใหม่ หรือเป็นแหล่งมั่งสุมได้อีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการรื้อถอนเพิงพักทั้งหมด และเตรียมเผาทำลายต่อไป
ด้าน ร.ต.ต.ธานี โพธิ์ชีพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอโยธยา กล่าวว่า เทศบาลได้รับการประสานจากพระครูสิริชัยมงคล รองเจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล ให้ช่วยเข้าไปทำการรื้อถอนเพิงพักของกลุ่มคนแต่งกายเป็นพระที่ถูกจับเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา
รวมทั้งให้ช่วยออกตรวจสอบ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านช่วยแจ้งเบาะแสหากพบเห็นพระธุดงค์ที่มาบิณฑบาตแบบผิดสังเกต ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที เพื่อจะได้จะเร่งตรวจสอบว่าเป็นพระจริงหรือพระปลอม และพักอาศัยอยู่ที่ใด เพื่อป้องกันพระปลอมมาหลอกลวงชาวบ้าน และสำรวจพื้นที่ตามป่ารกว่า ยังมีการตั้งเป็นเพิงพักอีกหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาหลอกลวงประชาชนได้อีก
