ระยอง - ตำรวจระยอง เร่งสืบหาต้นตอแหล่งใบปลิวต่อต้านเผด็จการ แต่ไม่คืบ มุ่งประเด็นรถ จยย.ต้องสงสัยกุญแจดอกสำคัญ เร่งส่งกล่องกล้องวงจรปิดตรวจสอบที่กรุงเทพฯ
จากกรณีชายลึกลับนุ่งกางเกงขาสั้น สวมเสื้อสีขาว ขี่รถจักรยานยนต์ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าน่าจะเป็นคนโปรยใบปลิวต่อต้านเผด็จการปลุกระดมผู้รักประชาธิปไตย บริเวณทางเข้าสวนศรีเมือง หน้าพระพุทธอังคีรส หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดระยอง เขตเทศบาลนครระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง และมีผู้พบใบปลิวต่อต้านเผด็จการอีกจำนวนมากแปะที่ศาลาที่พักผู้โดยสาร และแปะติดโต๊ะม้านั่งหินขัด ริมรั้ววิทยาลัยเทคนิคระยอง ริมถนนตากสินมหาราช เมื่อกลางดึกวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ห้องประชุมเพียรช่างการุญ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 ได้เรียกประชุมคณะนายตำรวจ ประกอบด้วย พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรณธนะ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.สมพงศ์ ทองใบ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.สุรพณ มงคลยุทธ ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง ตำรวจสืบสวนภาค 2 สืบสวน สภ.เมืองระยอง น.ต.ภาณุรัตน์ อุ่นญาติ ผบ.ร้อย และบริการพัน ร.7 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลจังหวัดระยอง เพื่อติดความคืบหน้าดังกล่าว
แต่ผลการประชุมไม่มีความคืบหน้า และจากการตรวจกล้องวงจรปิดพบว่า ภาพไม่ค่อยชัดเจนรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย จึงได้กำชับชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง สืบสวน ภ.จว.ระยอง และสืบสวนภาค 2 เร่งหาพยานหลักฐานรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น
เบื้องต้น ต้องให้ได้ความชัดเจนลักษณะยี่ห้อรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ตามที่ดูจากกล้อวงจรปิด คาดว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็กซ์วัน สีน้ำเงิน แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้จึงต้องส่งกล่องกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบที่กรุงเทพฯ เพื่อหารายละเอียด และความชัดเจน เพราะถ้าได้ความชัดเจนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวก็จะสามารถติดตามความคืบหน้าได้มากขึ้น
ระหว่างนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ระยอง สืบสวน สภ.เมืองระยอง และชุดสืบสวนภาค 2 ให้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยละเอียดตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งให้ตรวจสอบทางโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีการส่งกันทางไลน์ เพื่อสืบหาต้นตอแหล่งใบปลิว
นอกจากนี้ มีพยานพบเห็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตูสีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คนในรถลงมาแปะใบปลิวบริเวณที่พักศาลาผู้โดยสารหน้าโรงเรียนระยองวิทยาคม ได้กำชับชุดสืบสวนเร่งหาพยานคนที่พบเห็นรถคันดังกล่าวมาสอบปากคำ เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนหารถยนต์กระบะคันดังกล่าวเป็นของใคร
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง กล่าวว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง และสืบสวนภาค 2 ระดมกำลังเร่งหาพยานหลักฐาน ส่วนรายละเอียดขอไม่พูด
ด้าน นายชเนศ ชาญโลหะ ประธาน นปช.ระยอง กล่าวว่า ปัจจุบันไม่มีแล้ว นปช.เป็นอดีตไปแล้ว และกล่าวต่อไปว่า เมื่อวานตอนเย็นวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ขับรถไปส่ง นางมาลีรัตน์ ชาญโลหะ อายุ 80 ปี มารดาที่บ้านเลขที่ 54 ถนนชายกระป่อม 1 ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง และได้เดินทางกลับบ้านของตนที่อยู่กันละแห่ง ตนแยกครอบครัวมาอยู่บ้านอีกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้แจ้งย้ายทะเบียนออกจากบ้านมารดา
เมื่อเย็นวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ขับรถไปส่งมารดาที่บ้าน ถนนชายกระป่อม 1 ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง และเดินทางกลับบ้านพักของตนซึ่งอยู่กันคนละแห่งได้เพียง 5 นาที มารดาโทรศัพท์มาบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารแต่งเครื่องแบบพร้อมอาวุธปืนยาวครบมือจำนวนหลายคน เข้าตรวจค้นบ้านรื้อค้นตามตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก เพื่อจะหาเอกสารคาดว่าเกี่ยวกับเรื่องใบปลิว แต่ไม่พบอะไร พร้อมทำบันทึกปากคำมารดา และน้องสาว ถ่ายรูปบัตรประชาชน และให้เซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องใบปลิวแต่อย่างใด ตนมองว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วใครจะไปวิ่งโปรยใบปลิวตามที่เขาสงสัย ไม่รู้เอาอะไรมาคิด
การกระทำเช่นนี้ทำให้ชาวบ้านละแวกเดียวกันแตกตื่นมายืนดูจำนวนมาก เนื่องจากเห็นตำรวจ ทหาร มีอาวุธปืนครบมือมาค้นบ้าน ทำอย่างกับว่ามารดาผมไปทำผิดอะไรร้ายแรงหรืออย่างไร มารดาผมแก่อายุ 80 ปีแล้ว แต่แม่ผมไม่ได้ตกใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ได้แต่ข้องใจว่าทำไมกำลังตำรวจ ทหารพร้อมอาวุธปืนทำกันถึงขนาดนี้
จากกรณีชายลึกลับนุ่งกางเกงขาสั้น สวมเสื้อสีขาว ขี่รถจักรยานยนต์ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าน่าจะเป็นคนโปรยใบปลิวต่อต้านเผด็จการปลุกระดมผู้รักประชาธิปไตย บริเวณทางเข้าสวนศรีเมือง หน้าพระพุทธอังคีรส หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดระยอง เขตเทศบาลนครระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง และมีผู้พบใบปลิวต่อต้านเผด็จการอีกจำนวนมากแปะที่ศาลาที่พักผู้โดยสาร และแปะติดโต๊ะม้านั่งหินขัด ริมรั้ววิทยาลัยเทคนิคระยอง ริมถนนตากสินมหาราช เมื่อกลางดึกวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ห้องประชุมเพียรช่างการุญ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 ได้เรียกประชุมคณะนายตำรวจ ประกอบด้วย พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรณธนะ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.สมพงศ์ ทองใบ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.สุรพณ มงคลยุทธ ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง ตำรวจสืบสวนภาค 2 สืบสวน สภ.เมืองระยอง น.ต.ภาณุรัตน์ อุ่นญาติ ผบ.ร้อย และบริการพัน ร.7 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลจังหวัดระยอง เพื่อติดความคืบหน้าดังกล่าว
แต่ผลการประชุมไม่มีความคืบหน้า และจากการตรวจกล้องวงจรปิดพบว่า ภาพไม่ค่อยชัดเจนรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย จึงได้กำชับชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง สืบสวน ภ.จว.ระยอง และสืบสวนภาค 2 เร่งหาพยานหลักฐานรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น
เบื้องต้น ต้องให้ได้ความชัดเจนลักษณะยี่ห้อรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ตามที่ดูจากกล้อวงจรปิด คาดว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็กซ์วัน สีน้ำเงิน แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้จึงต้องส่งกล่องกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบที่กรุงเทพฯ เพื่อหารายละเอียด และความชัดเจน เพราะถ้าได้ความชัดเจนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวก็จะสามารถติดตามความคืบหน้าได้มากขึ้น
ระหว่างนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ระยอง สืบสวน สภ.เมืองระยอง และชุดสืบสวนภาค 2 ให้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยละเอียดตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งให้ตรวจสอบทางโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีการส่งกันทางไลน์ เพื่อสืบหาต้นตอแหล่งใบปลิว
นอกจากนี้ มีพยานพบเห็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตูสีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คนในรถลงมาแปะใบปลิวบริเวณที่พักศาลาผู้โดยสารหน้าโรงเรียนระยองวิทยาคม ได้กำชับชุดสืบสวนเร่งหาพยานคนที่พบเห็นรถคันดังกล่าวมาสอบปากคำ เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนหารถยนต์กระบะคันดังกล่าวเป็นของใคร
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง กล่าวว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง และสืบสวนภาค 2 ระดมกำลังเร่งหาพยานหลักฐาน ส่วนรายละเอียดขอไม่พูด
ด้าน นายชเนศ ชาญโลหะ ประธาน นปช.ระยอง กล่าวว่า ปัจจุบันไม่มีแล้ว นปช.เป็นอดีตไปแล้ว และกล่าวต่อไปว่า เมื่อวานตอนเย็นวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ขับรถไปส่ง นางมาลีรัตน์ ชาญโลหะ อายุ 80 ปี มารดาที่บ้านเลขที่ 54 ถนนชายกระป่อม 1 ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง และได้เดินทางกลับบ้านของตนที่อยู่กันละแห่ง ตนแยกครอบครัวมาอยู่บ้านอีกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้แจ้งย้ายทะเบียนออกจากบ้านมารดา
เมื่อเย็นวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ขับรถไปส่งมารดาที่บ้าน ถนนชายกระป่อม 1 ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง และเดินทางกลับบ้านพักของตนซึ่งอยู่กันคนละแห่งได้เพียง 5 นาที มารดาโทรศัพท์มาบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารแต่งเครื่องแบบพร้อมอาวุธปืนยาวครบมือจำนวนหลายคน เข้าตรวจค้นบ้านรื้อค้นตามตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก เพื่อจะหาเอกสารคาดว่าเกี่ยวกับเรื่องใบปลิว แต่ไม่พบอะไร พร้อมทำบันทึกปากคำมารดา และน้องสาว ถ่ายรูปบัตรประชาชน และให้เซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องใบปลิวแต่อย่างใด ตนมองว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วใครจะไปวิ่งโปรยใบปลิวตามที่เขาสงสัย ไม่รู้เอาอะไรมาคิด
การกระทำเช่นนี้ทำให้ชาวบ้านละแวกเดียวกันแตกตื่นมายืนดูจำนวนมาก เนื่องจากเห็นตำรวจ ทหาร มีอาวุธปืนครบมือมาค้นบ้าน ทำอย่างกับว่ามารดาผมไปทำผิดอะไรร้ายแรงหรืออย่างไร มารดาผมแก่อายุ 80 ปีแล้ว แต่แม่ผมไม่ได้ตกใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ได้แต่ข้องใจว่าทำไมกำลังตำรวจ ทหารพร้อมอาวุธปืนทำกันถึงขนาดนี้
