เชียงราย - เจ้าหน้าที่ออกกตรวจพื้นที่ป่าในเขตอำเภอแม่สรวย เชียงราย จับผู้ต้องหา 2 ราย แจ้งข้อหาทั้งล่าสัตว์ในเขตอุทยาน และจุดไฟเผาป่า ทั้งที่มีประกาศห้ามอย่างเด็ดขาด อ้างสร้างแนวกั้นไฟ
วันนี้ (21 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.ทพ.3 1 กองกำลังผาเมือง เจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย และฝ่ายปกครอง อ.แม่สรวย ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายยูลอ อาปู อายุ 39 ปี ชาวกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย และนายสุชาติ แซ่ซื้อ อายุ 32 ปี กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ต.สันสะลี อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ไฟแช็ก มีดเดินป่า และยาบ้าอีกครึ่งเม็ด เบื้องต้น ดำเนินคดีข้อหาลักลอบจุดไฟเผาและฝ่าฝืนเข้าไปในเขตอุทยาน
การจับกุมมีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจตราภายในอุทยานแห่งชาติดอยหลวง ซึ่งกินอาณาบริเวณหลายอำเภอ ได้พบนายยูลอ กำลังเข้าไปในเขตอุทยานพื้นที่ ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด และกำลังออกล่าสัตว์ใกล้ภูมิลำเนาของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวเอาไว้ สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ได้นำวัวไปเลี้ยงในป่าบริเวณดังกล่าว และถือโอกาสเข้าไปล่าสัตว์เพื่อจะนำมาเป็นอาหาร
ส่วนนายสุชาติ เจ้าหน้าที่พบว่า ได้มีการจุดไฟเผาเศษวัชพืชภายในสวน ต.ศรีถ้อย อ.แม่สรวย ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานเช่นกัน จึงได้เข้าไปจับกุมตัว ซึ่งก็ให้การรับสารภาพว่า ได้ทราบเรื่องประกาศห้ามเผาของจังหวัดแต่ ที่ทำลงไปก็เพื่อเข้าไปทำแนวกันไฟป้องกันไม่ให้ไฟป่าที่อาจจะเกิดขึ้นลุกลามเข้าไปยังสวนดังกล่าวโดยไม่ได้เผาเพื่อขยายพื้นที่ทำกินแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในปัจจุบันมีปัญหาเรื่องไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองหนาแน่นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทางจังหวัดก็มีการประกาศห้ามเอาไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว จึงควบคุมตัวทั้งคู่พร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นการจับผู้กระทำผิดภายหลังมีการรณรงค์ห้ามเผา และเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ กรณี อ.แม่สรวย ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงที่พบจุดเกิดไฟป่า หรือฮอตสปอตมากที่สุดของ จ.เชียงราย โดยเมื่อวันที่ 19-20 มี.ค.ที่ผ่านมา พบจุดฮอตสปอตรวมกัน จำนวน 13 จุด ส่วนใหญ่จะเกิดในพื้นที่ป่าเขาบนดอยสูง ทำให้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายต้องระดมกำลังกันออกดับไฟป่าอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้
