xs
xsm
sm
md
lg

จนท.ลุยตรวจแหล่งใหญ่แปรรูปแกะสลัก “งาช้าง” บุรีรัมย์ สกัดแก๊งค้างาข้ามชาติ-ผิด กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จนท.พัฒนาธุรกิจการค้าบุรีรัมย์ร่วมปทส. ตำรวจ ทหาร และป่าไม้ ตรวจหมู่บ้านแปรรูปแกะสลักงาช้างแหล่งใหญ่ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ป้องกันลักลอบค้างาช้างผิดกม.และแก๊งค้างาข้ามชาติวันนี้ ( 20 มี.ค.)
บุรีรัมย์ - จนท.พัฒนาธุรกิจการค้าบุรีรัมย์ ร่วม ปทส. ตำรวจ ทหาร และป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจหมู่บ้านแปรรูปแกะสลักงาช้างแหล่งใหญ่ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพื่อป้องกันการลักลอบค้างาช้างผิด กม. และแก๊งค้างาข้ามชาติ พร้อมเร่งให้ไปแจ้งขึ้นทะเบียนการค้าและครอบครองให้ถูกต้อง หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ ระบุบุรีรัมย์เป็น 1 ใน 8 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงลักลอบค้างาช้างผิด กม.

วันนี้ (20 มี.ค.) น.ส.หทัยรัตน์ คีรีวัลย์ พัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมคิด ทิพยจักรพงษ์ ผกก.3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.), พ.ต.อ.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, พ.ต.อ.สนอง วรรณโคตร ผกก.สภ.สตึก และนายสถาพร โพธิสาขา หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด พร้อมด้วยตัวแทนจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งจำหน่าย แปรรูป และแกะสลักงาช้าง ที่บ้านขี้เหล็ก ม.5 ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเลี้ยงช้างมากที่สุดในจังหวัดบุรีรัมย์

ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบว่ามีการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากงาช้าง รวมถึงชาวบ้านที่ครอบครองงาช้างบ้าน ให้ไปแจ้งการครอบครองให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งาช้าง พ.ศ. 2558

พร้อมกันนี้ยังได้มีการแจกแผ่นพับ และติดป้ายรณรงค์ “ไม่ซื้อ ไม่ขายงาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้าง” ตามจุดต่างๆ ในหมู่บ้านด้วย โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหรือชาวบ้านไปแจ้งการครอบครองงาช้างได้ที่ที่ว่าการอำเภอสตึก ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 21 เมษายน 2558 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่แจ้งตามระยะเวลาที่กำหนดจะถูกดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ. 2558 มีโทษทั้งจำและปรับ

จากข้อมูลพบว่าในพื้นที่ ต.ท่าม่วง อ.สตึก ดังกล่าวมีช้างอยู่กว่า 130 เชือก แต่ปัจจุบันได้ออกไปรับจ้าง ให้บริการนักท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด ทั้งนี้ จากเดิมมีผู้ที่จดทะเบียนขายผลิตภัณฑ์จากงาช้างอยู่ 16 ร้าน แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกไป 7 ราย และเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนเป็นจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกระดูกสัตว์ 7 ราย ทำให้ขณะนี้เหลือผู้ที่ยังจดทะเบียนค้างาหรือผลิตภัณฑ์จากงาช้างเพียง 2 ราย

ด้าน น.ส.หทัยรัตน์ คีรีวัลย์ พัฒนาธุรกิจการค้า จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการร้านค้าที่จำหน่ายงาช้างหรือผลิตภัณฑ์จากงาช้างบ้าน ที่ค้าอยู่เดิมก่อนพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. 2558 โดยร้านค้าจะต้องจัดทำบัญชีการได้มา บัญชีการแปรรูป เพื่อควบคุมการค้างาช้างบ้าน มิให้มีการลักลอบนำเอางาช้างแอฟริกาเข้ามาปะปน เป็นการตัดวงจรขบวนการค้างาช้างแอฟริกาข้ามชาติที่ผิดกฎหมาย ซึ่งบุรีรัมย์ถือ 1 ใน 8 จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงในการลักลอบค้างาช้างอย่างผิดกฎหมาย

จากการลงพื้นที่สุ่มตรวจที่บ้านขี้เหล็ก ต.ท่าม่วง อ.สตึก พบว่ามีการจดทะเบียนพาณิชย์ทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้อง ซึ่งในส่วนที่จดไม่ถูกต้องได้แนะนำให้ดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง





กำลังโหลดความคิดเห็น