ตร.-ทหาร-ป่าไม้บุรีรัมย์สกัดจับแก๊งขนไม้พะยูง “ป่าดงใหญ่” ของกลางอื้อ

บุรีรัมย์ - ตำรวจภาค 3 ร่วมตำรวจ สภ.โนนดินแดง บุรีรัมย์ พร้อมทหาร ตำรวจทางหลวง ตชด. และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ สกัดจับแก๊งมอดไม้ลำเลียงไม้พะยูงออกจากป่าดงใหญ่ส่งขายนายทุนนอกพื้นที่ ได้ผู้ต้องหาชาย 3 คน ของกลาง 74 ท่อน/เหลี่ยม/แผ่น

เมื่อเวลา 02.30 น. วันนี้ (20 มี.ค.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ ผกก.สส.2 บก.ภ.3 พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.รส.ร.23 พัน.4 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.ภ.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนดินแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.215 และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ สกัดจับรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีบรอนซ์เทา เลขทะเบียน กต 4996 ขอนแก่น

หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ารถเก๋งคันดังกล่าวเข้าไปบรรทุกไม้พะยูงแปรรูปที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านหนองเสม็ด ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เขตติดต่อกับ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จึงได้ร่วมกันเข้าไปตรวจสอบบริเวณตามที่ได้รับแจ้ง และเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดสกัดบริเวณเส้นทางโนนดินแดง-ตาพระยาอีกชุดหนึ่ง

จากนั้นพบรถยนต์ตรงตามที่ได้รับแจ้งวิ่งสวนออกมาจากหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถวิ่งตามรถเก๋งคันดังกล่าว พร้อมส่งสัญญาณให้หยุดรถยนต์ และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานเพื่อตรวจสอบก่อนทำการตรวจค้น พบนายมานิต สุวรรณมณี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1/1 ถ.ชัย-เพชรมงคล ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว และมีนายจตุภูมิ ขีดสำโรง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/343 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นั่งข้างคนขับมาด้วยกัน

ผลการตรวจค้นรถพบไม้พะยูงแปรรูปวางซุกซ่อนอยู่ท้ายรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว จำนวน 16 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 0.21 ลูกบาศก์เมตร

สอบสวนนายมานิตให้การว่า ได้ร่วมกับนายจตุภูมินำรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวไปขนไม้พะยูงที่ป่าท้ายหมู่บ้านหนองเสม็ด โดยได้รับว่าจ้างจากนางสาวบัว หรือต่าย ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ของตน โดยให้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 1,500 บาทต่อเที่ยว

ขณะที่นายจตุภูมิให้การว่า ตนได้ถูกนายมานิตโทรศัพท์มาชักชวนให้ร่วมเดินทางไปขนไม้พะยูงที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ และไม่ได้ค่าจ้างแต่อย่างใด โดยนายมานิตขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมารับตนที่บ้านพัก จากนั้นได้ไปร่วมกันขนไม้พะยูงที่ซุกซ่อนอยู่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านหนองเสม็ดมาใส่และซุกซ่อนไว้หลังรถยนต์เก๋ง โดยมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงจำนวน 7-8 คนมาช่วยขนไม้พะยูงใส่รถ จากนั้นนายมานิตได้ขับรถออกมาจากหมู่บ้านหนองเสม็ด โดยตนเป็นคนนั่งข้างคนขับไปเป็นเพื่อนและทำหน้าที่ช่วยดูเส้นทาง ก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว

เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นที่ป่าท้ายหมู่บ้านหนองเสม็ด พบกลุ่มบุคคลเป็นชายจำนวน 7-8 คนกำลังช่วยกันลำเลียงขนไม้พะยูงใส่รถยนต์กระบะ เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่จึงพากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าดงใหญ่ พบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว เลขทะเบียน ษร 1152 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ใกล้กัน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงขับรถฝ่าหลบหนีออกมาและแจ้งวิทยุสกัดจับได้ที่ตู้ยามเฉลิมพระเกียรติ ถนนสายโนนดินแดง-ตาพระยา ทราบชื่อต่อมาคือ นายศักดิ์ดา แก้วมุกดา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 10 ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย ขับมาคนเดียว

จากการตรวจสอบบริเวณป่าท้ายหมู่บ้านหนองเสม็ด พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีเทาดำ เลขทะเบียน บจ 9023 บุรีรัมย์ ต่อโครงเหล็กที่กระบะท้ายบรรทุกไม้พะยูงเต็มคันรถและมีผ้าใบปิดคลุมทับอยู่ นับได้จำนวน 58 ท่อน/เหลี่ยม/แผ่น ปริมาตร 1.24 ลูกบาศก์เมตร พบรถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน รถเข็นสองล้อ 2 คัน ที่ไว้ใช้ในการชักลากไม้ จึงควบคุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางมาสอบสวนที่ สภ.โนนดินแดง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหามีไม้หวงห้ามแปรรูป (ไม้พะยูง) ไว้ในความครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาต