กาญจนบุรี - ตำรวจสุพรรณบุรี ประสานทหารใช้กฎอัยการศึก บุกจับนายทุนดอกเบี้ยโหดกลางดึก หลังก่อเหตุทำร้ายลูกหนี้ซึ่งเป็นหญิงชราจนได้รับบาดเจ็บ ค้นบ้านพบรายชื่อลูกค้าอื้อ พร้อมอายัดรถหรูเอาไว้ตรวจสอบ
เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันนี้ (17 มี.ค.) พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี (รรท.ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี) สืบทราบว่า ที่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 5 ต.สนามชัย อ.เมืองสุพรรณบุรี เจ้าของบ้านเป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุระพรรณ นาทวรทัต ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.สาโรจน์ พิมพ์คุณากร รอง ผกก.กสส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ประสานกำลังทหารใช้กฎอัยการศึกเดินทางเข้าไปตรวจค้น
โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังขนาดใหญ่ พบนายคมสัน เสือนาค อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านอยู่ภายใน เดิมอยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 7 ต.วัง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเอาไว้ และจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์สปอร์ต สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎล 9944 กทม. จำนวน 1 คัน รถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีแดง หมายเลขทะเบียน ฉอ 7177 กทม. จำนวน 1 คัน สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ รวม 26 เล่ม คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 2 เครื่อง ทะเบียนปืน 4 ใบ และหนังสือสัญญากู้เงินจำนวนมากเอาไว้ตรวจสอบ
พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา มีนายทุนเงินกู้รายหนึ่งได้ไปเก็บเงินลูกหนี้แล้วเกิดมีปากเสียงกัน นายทุนคนดังกล่าวจึงได้ทำร้ายร่างกายหญิงสูงอายุ ขณะอุ้มหลานวัย 10 เดือน จนได้รับบาดเจ็บ
ขณะเกิดเหตุมีพลเมืองถ่ายคลิปเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สองพี่น้อง ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ประสานกับฝ่ายสืบสวน สภ.สองพี่น้อง ออกสืบหาข่าวในเชิงลึก จนทราบว่า นายทุนคนดังกล่าวคือ นายคมสัน จึงรวบรวมพยานหลักอนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสุพรรณบุรี และสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้น และจับกุมตัวได้ เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ส่วนกรณีปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนดนั้นจะสอบสวนแล้วแจ้งข้อหาเพิ่ม พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายคมสัน ผู้ต้องหาให้การว่า ตนเป็นเจ้าของธุรกิจให้เช่ารถแท็กซี่ที่กรุงเทพฯ กว่า 10 คัน ต่อมา ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ได้มาลงทุนปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน มีลูกค้ามาขอกู้เป็นจำนวนมาก มาระยะหลังเศรษฐกิจไม่ค่อยดีทำให้ลูกหนี้มีปัญหาเรื่องการเงินจึงไม่มีจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ที่กู้จากตนไป และเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนเข้าไปเก็บเงินที่บ้านของลูกหนี้รายหนึ่งแต่ไม่พบตัวลูกหนี้ พบเพียงหญิงชรารายหนึ่งอยู่ที่บ้าน และพูดจาไม่ดีพร้อมทั้งด่าทอ ตนจึงเกิดความโมโหจึงลงมือทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว