องคมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนใหญ่ภาคอีสานส่อแล้งวิกฤต

กาฬสินธุ์ฺ - นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เข้าติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนขนาดใหญ่ และเยี่ยมชมการบริหารจัดการน้ำชุมชน ตามแนวทางพระราชดำริในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่กำลังเผชิญต่อปัญหาวิกฤตภัยแล้ง

วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีพร้อมคณะ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์กองทัพบก เข้าติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นภารกิจตรวจติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนขนาดใหญ่และเยี่ยมชมการบริหารจัดการน้ำชุมชน ตามแนวทางพระราชดำริในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดสกลนคร ซึ่งขณะนี้ประชาชนเริ่มประสบต่อปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคมากขึ้นจากปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วง

โดยที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้ารายงานสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดได้เริ่มดำเนินการแจกจ่ายน้ำดื่ม และน้ำอุปโภคให้แก่ประชาชน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากกว่า 200,000 ลิตร และมีประชาชนอย่างน้อย 5 หมื่นครัวเรือน ประสบปัญหาโดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทาน

นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในเขตพื้นที่ชลประทานจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก จะเป็นลักษณะแก้มลิงกักเก็บน้ำที่ไม่เพียงพอ จังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแจ้งให้งดการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จะอยู่ในความรับผิดชอบของชลประทานจังหวัด มีจำนวน 19 แห่ง ครอบคลุม 10 อำเภอ ก็ยังคงมีปริมาณน้ำเพียงพอให้แก่ประชาชน

ส่วนเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ปริมาณน้ำยังคงมีเพียงพอตลอดในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งในขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 749 ล้าน ลบ.ม.หรือ 37%

แต่เนื่องจากในพื้นที่ชลประทาน ด้วยสภาพทางเศรษฐกิจทำให้ประชาชนเร่งทำการเพาะปลูกมากยิ่งขึ้น ประกอบกับมีการทำการประมง จึงได้ทำการแนะนำให้เกษตรกรใช้ความระมัดระวังในการใช้น้ำ และจากการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีการนำเสนอการแก้ไขปัญหาด้วยการขุดลอกเสมือนกับโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

โดยเน้นไปในพื้นที่นอกเขตชลประทาน หรือเขตชลประทานที่เข้าไม่ถึงต่อความต้องการให้ภาครัฐดำเนินโครงการใหญ่ โดยเฉพาะการผันน้ำจากแม่น้ำโขงเข้ามาใช้ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน

สำหรับการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ จากการตรวจสอบทางอากาศพบว่า ในพื้นที่ราบสูงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดสกลนคร ปริมาณน้ำในห้วย หนอง คลอง บึง นอกเขตชลประทานส่วนใหญ่เริ่มลดลง บางพื้นที่แห้งขอดประชาชนเดือดร้อนต้องการแหล่งน้ำแห่งใหญ่ และคาดว่าหากเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วงในปี 2558 นี้ จะทำให้พื้นที่ภาคอีสานประสบกับวิกฤตขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคหนักกว่าทุกปี