นครพนม - กัญชาทะลักข้ามโขงไม่หยุด ฝ่ายปกครองท่าอุเทน ทหารพรานออกตรวจจับแก๊งขนกัญชาข้ามฝั่งจากลาวกลางดึกจนปะทะเดือด หลังเสียงปืนสงบตรวจยึดของกลางได้ 200 กิโลฯ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
เช้าวันนี้ (11 มี.ค.) ที่อำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอท่าอุเทน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 01.00 น.วันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดอำเภอท่าอุเทน โดย นายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ร.อ.ธีระ เส็งตากแดด ผบ.ร้องทหารพราน 2108 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นำกำลังชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครอง ร่วมทหารพรานเข้าวางแผนสกัดจับกุมขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ
หลังสืบทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงขนส่งกัญชามาจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เข้ามาในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จนกระทั่งถึงเวลาตามที่รับแจ้ง พบเรือหางยาวขนาดใหญ่ติดเครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ มีชาย 5 คน นั่งมาในลำเรือจอดเทียบท่าริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณท่าทรายร้างริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านตาลปากน้ำ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ก่อนจะทำการลำเลียงกระสอบปุ๋ยสิ่งของต้องสงสัยแบกลงเรือวิ่งขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มผู้ต้องสงสัยใช้อาวุธยิงต่อสู้เปิดทางหนี เกิดการปะทะกันเป็นเวลาประมาณ 10 นาที จนกระทั่งเสียงปืนสงบจึงเข้าเคลียพื้นที่พบกระสอบปุ๋ยบรรจุกัญชาอัดแท่ง จำนวน 5 กระสอบ วางเรียงรายตามเส้นทางขึ้นมาจากริมแม่น้ำโขง ตรวจนับได้ทั้งหมด จำนวนรวม 200 แท่ง หนัก 200 กิโลกรัม และสามารถจับกุมแรงงานรับจ้างแบกกระสอบกัญชา ในที่เกิดเหตุที่หลบหนีไม่ทันได้ 1 ราย
ทราบชื่อภายหลังคือ ท้าวเหลือง ลอมะนี อายุ 16 ปี ชาวบ้านหาดใหญ่ เมืองหินบูน สปป.ลาวจึงควบคุมตัวมาสอบสวน ซึ่งจากสถิติการจับกุมตรวจยึดในพื้นที่ในรอบเดือนที่ผ่านมา มีการตรวจยึดกัญชาเกือบ 1,000 กิโลกรัม
ร.อ.ธีระ เส็งตากแดด เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีการสืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำเข้ากัญชามาจากประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวช่วงสุดท้าย ก่อนเข้าฤดูฝน จึงมีการสั่งนำเข้าไปสต๊อกรอขายพื้นที่ตอนในของไทย โดยจะมีการลำเลียงขนส่งมาทางเรือหางยาว จึงเข้าตรวจสอบจับกุมผู้ต้องหาชาวลาวทำหน้าที่แบกกระสอบกัญชามาพักเพื่อรอลำเลียงขนส่งต่อไปขาย
โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า มาด้วยกัน 5 คน ได้รับค่าจ้างคนละ 5,000 บาท แต่ช่วงเกิดเหตุปะทะได้หลบหนีไปได้ ส่วนมูลค่าของกลางคิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท จากข้อมูลพบว่า มีราคาซื้อขายชายแดนราคาประมาณกิโลกรัมละ 5,000 บาทเมื่อส่งถึงปลายทางจังหวัดตอนใน จะมีราคาสูงประมาณกิโลกรัมละประมาณ 20,000 บาท
โดยการจับกุมแต่ละครั้งต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยง เนื่องจากขบวนการค้ายาเสพติดมีการพัฒนาติดอาวุธ เสี่ยงเกิดปะทะ ยากในการจับกุมผู้กระทำผิด จึงต้องใช้ความระมัดระวัง ป้องกันการสูญเสียของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการเข้มสกัดกั้นปราบปรามจับกุมต่อเนื่อง