xs
xsm
sm
md
lg

ยึดรถ 4 คันเตรียมขนขายฝั่งลาว เผยทำเป็นขบวนการ มี จนท.รัฐร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครพนม - แก๊งค้ารถยนต์ข้ามชาติไทย-ลาวเย้ยกฎหมาย เตรียมขนข้ามโขง 4 คันรวด จนท.สนธิกำลังยึดได้ทัน เผยทำกันเป็นขบวนการ มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วม นานครั้งจะสร้างสถานการณ์ตรวจยึดแต่จับผู้ต้องหาไม่ได้ ซ้ำเหิมจัดข่มขู่เอาชีวิตเจ้าหน้าที่หลังยิงชาวลาวที่ร่วมแก๊งดับ 1 ศพคาเรือ

วันนี้ (24 พ.ย.) นาวาเอก ณัฐเกียรติ มนขุนทด ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตนครพนม เจ้าหน้าที่สถานีเรืออำเภอบ้านแพง นำโดย เรือโท อดุลย์ สำอาง หัวหน้าสถานีเรือ นรข.บ้านแพง ประสานนายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ปลัดอำเภอหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ นายสุจินต์ ศรีจันทร์อินทร์ จนท.ศุลกากรชำนาญการ ร.อ.ธีระ เส็งตากแดด ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 2601 พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย.ตชด.237 อ.ท่าอุเทน เข้าตรวจสอบยึดรถยนต์ของกลางที่ถูกโจรกรรมได้ 4 คัน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านแก๊ง หมู่ 2 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

โดยตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แชมป์ 4 ประตู สีขาว สภาพใหม่เพิ่งดาวน์ออกจากโชว์รูมโตโยต้า ร้อยเอ็ด เป็นเงินตามเอกสาร 1.2 แสนบาท เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่มีป้ายทะเบียน พร้อมรถกระบะโตโยต้า แค็บ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บง 9687 มุกดาหาร รถกระบะมาสด้า บีที 50 โปร 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน 2 กภ 9028 กรุงเทพมหานคร และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค 910 ศรีสะเกษ ซึ่งคนร้ายคาดว่าเป็นแก๊งโจรกรรมข้ามชาติ กำลังนำมาจอดรอลำเลียงลงเรือหางยาวที่ทำเป็นแพข้ามแม่น้ำโขงไปขายฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ยังตรวจพบไม้ที่ทำเป็นสะพานลำเลียงรถยนต์อีก 2 ชุด การจัดทำเส้นทางลำเลียงบริเวณริมแม่น้ำโขง เชื่อว่ามีการลักลอบขนส่งข้ามไปขายแล้วบ่อยครั้ง

นายสุจินต์กล่าวว่า จากการตรวจสอบเชื่อว่ารถยนต์ทั้ง 4 คันได้มาจากการโจรกรรมของแก๊งโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ ลักลอบส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทำเป็นขบวนการ มีการนำรถยนต์มาหลายรูปแบบ มีทั้งการโจรกรรม รวมถึงการใช้วิธีดาวน์รถป้ายแดง หรือรถยนต์มือสอง ก่อนแจ้งหายแล้วนำส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน

รวมถึงรถยนต์ที่นำมาจากบ่อนการพนัน ที่มักซื้อขายกันคันละ 3-5 แสนบาท แล้วแต่ยี่ห้อ รุ่น และสภาพรถ แต่ส่วนใหญ่จะมีคำสั่งซื้อรถยนต์เป้าหมายตระกูลโตโยต้าแบบยกสูงเป็นหลัก ทำให้มีการตรวจยึดจับกุมบ่อยครั้ง ซึ่งในช่วงนี้ถือว่าขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติอุกอาจ ไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ แม้เป็นยุค คสช. แต่ยังมีการลักลอบส่งข้ามไปขาย

จากสถิติการตรวจยึดจับกุมในรอบเดือนที่ผ่านมา พื้นที่ อ.ท่าอุเทนยึดได้ 5 คัน ซ้ำยังมีการข่มขู่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มข้นปราบปรามจับกุมต่อไป เพราะส่วนหนึ่งเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ทำให้การปราบปรามเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า การค้ารถยนต์ข้ามชาติไทย-ลาวริมโขง ต.หนองเทา ขบวนการค้ารถเถื่อนจะนิยมซื้อรถหลุดจำนำจากบ่อนเพราะมีสภาพดี และรถที่ดาวน์จากเต็นท์รถและโชว์รูม ไม่นิยมรถที่โจรกรรม เพราะถูกติดตามโดยเจ้าหน้าที่ โดยเต็นท์รถจะรู้กันกับผู้รับซื้อก่อน ให้ดาวน์ออกไปแล้วทำประกันรถหายกับไฟแนนซ์ จากนั้นแจ้งหายแล้วนำรถมาส่งที่ จ.นครพนม

หลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของขบวนการค้ารถข้ามชาติ ในการนำรถข้ามแม่น้ำโขง ตั้งแต่การว่าจ้างท่าแพข้ามราคาคันละ 1 แสนบาท โดยเจ้าของท่าจะเป็นผู้รับผิดชอบ ตั้งแต่จ้างคนขับจากตลิ่งโขงลงไปขึ้นเรือที่ใช้ไม้พาดเรือ 2 ลำ คือ ต้องใช้คนขับที่เชี่ยวชาญและชำนาญมาก นอกจากนี้ยังมีมดงานไม่ต่ำ 10 คน ค่าจ้างคนละ 1,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีการวางมดงานเป็นสายข่าวตลอดแนวในหมู่บ้านชายแดน เมื่อมีเจ้าหน้าที่มาก็จะรายงานชุดขนรถที่ริมโขงทันที กลุ่มมดข่าวจะได้คนละ 500 บาท ขบวนการขนรถข้ามชาติจะขนรถข้ามโขงครั้งละ 5-10 คัน ที่สำคัญจะมีการสร้างสถานการณ์ถูกจับกุมครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ่การจับกุมจะไม่มีผู้ต้องหา จะได้แต่ของกลางและก็แถลงข่าว หลายอาทิตย์ต่อมาบริษัทไฟแนนซ์หรือเต็นท์ขายรถก็จะมาขอรับรถคืน ส่วนใหญ่จะรู้กันกับกลุ่มขายรถข้ามชาติ เพราะความผิดการค้ารถข้ามชาติคือ การส่งสินค้าผ่านแดนโดยไม่ผ่านด่านศุลกากรเท่านั้น ยกเว้นรถขโมยมาจะมีโทษเมื่อถูกจับกรณีมีผู้ต้องหา ดังนั้นรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจึงไม่นิยมกัน

ส่วนประเด็นข่มขู่เจ้าหน้าที่นั้น เกิดจากความแค้นที่ครั้งล่าสุดเมื่อ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ท้าวปัญญา พรหมดี อายุ 40 ปี ชาวบ้านพง เมืองหินบูน สปป.ลาว มาขนรถแต่ถูกเจ้าหน้าที่ดักซุ่มตรวจยึดรถริมตลิ่งโขง และถูกยิงเสียชีวิตคาเรือแพ แต่ข่าวถูกปิดเงียบ ไล่เลี่ยกันยังมีกรณีเรือหาปลาชาวบ้านท่าหนามแก้ว ต.หนองเทา ถูกลูกหลงกระสูนปืนเจ้าหน้าที่เจาะถังน้ำมันด้วย และไม่มีใครรับผิดชอบ จนทำให้ชาวบ้านหวาดวิตก


กำลังโหลดความคิดเห็น