จันทบุรี - เกษตรจังหวัดนำสื่อมวลชน ร่วมชมกระบวนการผลิตผลไม้คุณภาพ มั่นใจปีนี้ตราคาดี เพราะคุณภาพได้มาตรฐาน ตลาดมีความต้องการสูง สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 2 หมื่นล้าน
วันนี้ (9 มี.ค.) นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร เกษตรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนักวิชาการเกษตร นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ผลไม้ของจังหวัด ที่กำลังจะให้ผลผลิตออกสู่ตลาด พบว่า ปีนี้ผลผลิตส่วนใหญ่มีคุณภาพมาตรฐานตามที่ตลาดต้องการ มีการกระจายตัวของผลผลิต ไม่กระจุกตัว และคาดว่าราคาจะดีตามกลไกตลาด เนื่องจากตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีความต้องการสูง
ขณะที่ปัจจุบันเริ่มมีผู้ประกอบการออกกว้านซื้อล่วงหน้า โดยเฉพาะทุเรียน และมังคุด ที่มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละเกือบ 200 บาท การนำสื่อมวลชนท้องถิ่นติดตามดูกระบวนการผลิตของเกษตรกรครั้งนี้เป็นการสุ่มตัวอย่างกลุ่มเกษตรกรชุมชนบ้านสะพานเลือก ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ ที่ประสบความสำเร็จในการลดต้นทุน เป็นเกษตรแบบผสมผสาน ไม่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช จึงปราศจากสารพิษตกค้าง และไม่มีมลพิษ ปลอดภัยทั้งเกษตรกร และผู้บริโภค
โดยกลุ่มเกษตรกรชุมชนบ้านสะพานเลือก มีศูนย์เรียนรู้จัดการศัตรูพืชเป็นแหล่งความรู้ของชุมชนที่คนในหมู่บ้าน และเกษตรกรนอกพื้นที่เข้ามาศึกษาเป็นแบบอย่างขยายผลเกษตรอินทรีย์ ผลผลิตส่วนใหญ่เป็นทุเรียน เงาะ มังคุด กล้วยไข่ หลังจากนั้น จึงเดินทางไปเยี่ยมชมสวนลุงเชน เกษตรกรตัวอย่างที่อดีตเป็นแรงงานชาวสวนจากจังหวัดร้อยเอ็ด แต่ขยันหมั่นเพียรจนมีสวนผลไม้ของตนเอง และขยายพื้นที่ทำสวนมากกว่า 30 ไร่ มีพื้นฐานความรู้จากภูมิปัญญา ลองผิดลองถูกจนประสบความสำเร็จในการผลิตผลไม้ออกก่อนสวนอื่น จึงทำให้ได้ราคาดี มีพ่อค้าเข้ามาขอซื้อผลไม้ล่วงหน้าเป็นประจำทุกปี
โดยการทำผลผลิตออกก่อนฤดูของเกษตรกรตัวอย่างจะมีชาวบ้าน และเกษตรกรนอกพื้นที่เข้ามาศึกษาดูงานบ่อยครั้ง และมีการขยายผลความรู้ ภูมิปัญญาชาวบ้านผสมผสานวิชาการทางการเกษตรสู่เกษตรกรรายอื่น เพื่อผลิตผลไม้ให้ได้ตามความต้องการของตลาด รักษาคุณภาพ มาตรฐาน และชื่อเสียงของเกษตรกรชาวจันท์
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี นอกจากจะส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตผลไม้คุณภาพ อาหารสุขภาพ ปราศจากสารพิษตกค้าง สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคแล้ว ยังได้ส่งเสริมและควบคุมแผงจำหน่ายผลไม้ปลีก-ส่งริมทาง และตลาดกลางขายส่งเพื่อรับรองคุณภาพมาตรฐาน สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคที่ซื้อผลไม้ของเกษตรกรจันทบุรีไปบริโภค โดยปีนี้คาดมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 6 แสนตัน มูลค่ารวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท