อุบลราชธานี - ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนมัธยมใน อ.โขงเจียม ตบเท้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจาก ผอ.สพม.เขต 29 ลูกหลานถูกผู้อำนวยการโรงเรียนให้ออก 30 คน เหตุไม่รู้จักผู้อำนวยการ ลงเฟซบุ๊กด่าไม่ทำงาน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (9 มี.ค.) นายกิตติบูลย์ คูณทวี ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี นำตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอ ประมาณ 10 คน เข้าพบ นายวลงกรณ์ บุญเต็ม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) เขต 29 เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กรณีถูกผู้อำนวยการโรงเรียนให้ออกจากโรงเรียนไปเรียนที่อื่นที่ไกลกว่า ซึ่งบางรายเป็นนักเรียนที่กำลังจะจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายอยู่แล้ว
สาเหตุเพราะเป็นนักเรียนกลุ่มที่ทางโรงเรียนไม่พึงปรารถนา เนื่องจากมีพฤติกรรมเกเร ก้าวร้าว มีปัญหาเรื่องชู้สาว บางรายลงเฟซบุ๊กด่าผู้อำนวยการโรงเรียนที่ไม่ยอมมาทำงาน โดยมีเด็กนักเรียนที่ถูกให้ออกจากโรงเรียน และย้ายไปเรียนที่อื่นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รวม 30 คน และหนึ่งในจำนวนนี้ถูกผู้อำนวยการฟ้องฐานหมื่นประมาทผ่านสังคมออนไลน์ จนต้องขึ้นศาลและถูกศาลสั่งให้คุมประพฤติ และบางรายถูกโรงเรียนปลอมหนังสือ อ้างเป็นผู้ปกครองมาขอย้ายด้วย
นายกิตติบูลย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้ย้ายมาอยู่ที่อำเภอโขงเจียม ประมาณ 2 ปี ได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้านถึงพฤติกรรม ทั้งการยื่นฟ้องเด็กนักเรียนฐานหมิ่นประมาท บางรายถูกผู้อำนวยการหาเรื่องว่าไม่รู้จักว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เมื่อพบแล้วไม่ทำความเคารพ
และตั้งแต่ปลายเดือน 2557 ถึงเดือนมกราคม มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และปลายถูกให้ออกจากโรงเรียนไปเรียนต่อที่อื่นแล้วรวม 30 คน ทั้งที่บางคนกำลังจะจบการศึกษา ส่วนสาเหตุให้ออกจากโรงเรียนให้เหตุผลเป็นกลุ่มเด็กนักเรียนมีพฤติกรรมชู้สาว เกเร ก้าวร้าว ติด ร. ติด 0 ทำให้ผู้ปกครองไม่พอใจ รวมตัวมาพบเพื่อให้ตนนำมายื่นเรื่องขอความเป็นธรรม
ขณะที่ นายอาคม ผลเพิ่ม อายุ 54 ปี ผู้ปกครองนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ถูกให้ออกจากโรงเรียน เพราะโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณีโรงเรียนทำห้องเรียนกลุ่มนักเรียนพิเศษ โดยเขียนระบุคนที่จะเรียนห้องดังกล่าว ต้องจ่ายเงินให้โรงเรียนเป็นกรณีพิเศษคนละ 4,900 บาท คนเรียนเก่งแต่ไม่มีเงินไม่สามารถเรียนได้ หลังแสดงความเห็นก็ถูกให้ออกไปเรียนที่อื่นทันที และมีนักเรียนบางคนผู้ปกครองไม่ได้ไปทำเรื่องขอย้าย แต่ทางโรงเรียนทำหนังสือให้ย้ายเองด้วย
ด้าน นายวลงกรณ์ กล่าวว่า การจะให้เด็กนักเรียนย้ายไปเรียนที่อื่น ผู้ปกครองต้องเป็นผู้มาทำเรื่องขอย้ายกับทางโรงเรียน ไม่ใช่โรงเรียนทำหนังสือขึ้นเอง เรื่องที่เกิดขึ้นจะให้ความเป็นธรรมต่อผู้ปกครอง โดยจะตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่าผู้อำนวยการมีพฤติกรรมดังกล่าวจริงหรือไม่ และจะแจ้งผลให้ทราบภายใน 15 วัน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปหาผู้อำนวยการคนดังกล่าว เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง แต่ทางครูที่รับสายแจ้งว่า ผู้อำนวยการไม่พร้อมจะให้ข้อมูล และขอหมายเลขโทรศัพท์ไว้ แล้วจะให้ผู้อำนวยการติดต่อกลับมาหา แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อมาแต่อย่างใด
