xs
xsm
sm
md
lg

ศาลจำคุกโจกแดง 4 ปี นำพวกปิดโรงแรมป่วนประชุมอาเซียน ที่พัทยาปี 52 “อริสมันต์” พร้อมพวกนอนคุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เหตุการณ์คนเสื้อแดงบุกเข้าไปในโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา เมื่อเดือนเมษายน 2552
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศาลตัดสินจำคุกแกนนำเสื้อแดง 13 คน รวมทั้ง “อริสมันต์-นิสิต สินธุไพร-พายัพ ปั้นเกตุ-วรชัย เหมะ-สิงห์ทอง บัวชุม” คนละ 4 ปี ข้อหาชุมนุมเกินกว่า 10 คนขึ้นไป ปิดโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่การประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปี 2552 ล่าสุด ทั้ง 13 คนยังไม่ได้ประกันตัว

จากกรณีคดีคนเสื้อแดงรวมตัวประท้วง พร้อมกับปิดโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่การประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ โดยมี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง เป็นแกนนำชุมนุม เมื่อปี 2552

ล่าสุด วันนี้ (5 มี.ค.) นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง พร้อมพวกรวม 15 คน จากรายชื่อผู้ต้องหา 18 คน ได้เข้าฟังคำตัดสิน ณ ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี ในเบื้องต้น ศาลได้ตัดสินจำคุก 4 ปี ข้อหาชุมนุมเกินกว่า 10 คนขึ้นไป และผิด พ.ร.บ.จราจรดำเนินการปรับ 200 บาท จำนวน 13 คน ประกอบด้วย 1.นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง 2.นายนิสิต สินธุไพร 3.นายพายัพ ปั้นเกตุ 4.นายวรชัย เหมะ 5.นายวันชนะ เกิดดี 6.นายพิเชฐ สุขจินดาทอง 7.นายศักดิ์ดา นพสิทธิ์ 8.พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์ 9.นายนพพร นามเชียงใต้ 10.นายสำเริง ประจำเรือ 11.นายสมยศ พรหมมา 12.นพ.วัลลภ ยังตรง และ 13.นายสิงทอง บัวชุม

นอกจากนี้ ศาลได้ยกฟ้อง นายธงชัย ศักดิ์มังกร และ พ.ต.อ.สมพล รัฐบาล นอกจากนั้น ศาลสั่งพักคดี จำนวน 3 คน โดยมี 1.พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์ 2.สุรชัย แซ่ด่าน และ นส.อรวรรณ (ไม่ทราบนามสกุล)

นายคารม พลพรกลาง ทนายความคดีแกนนำคนเสื้อแดง เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ดำเนินการเรื่องการประกันตัวให้แก่จำเลยทั้ง 13 คนแล้ว แต่ทางศาลชั้นต้นยังไม่อนุญาต โดยมอบหมายให้เป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ภาค 2 จังหวดชลบุรี พร้อมกันนี้ จำเลยทั้ง 13 คนจะต้องถูกส่งตัวไปเรือนจำพิเศษหนองปลาไหล จังหวัดชลบุรี จนกว่าศาลอุทรณ์จะมีคำสั่งอนุญาติให้ประกันตัว

ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่ทางศาลมีการเรียกในการประกันตัวเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวคนละ 670,000 บาท ในชั้นนี้อาจจะเพิ่ม หรือเท่าเดิมก็ได้ ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น