พระนครศรีอยุธยา - เกิดเหตุระทึกกลางดึกบนถนนสายเอเชีย กรุงเก่า รถบรรทุกพ่วงบรรทุกถ่านหินมาเต็มคันรถ พุ่งชนท้ายกระบะก่อนเสียหลักพ่วงท้ายพลิกคว่ำ ส่งผลให้ทั้งพ่วงท้ายของรถบรรทุก และหินทับรถเก๋งของหนุ่มโรงงานอุตสาหกรรมโรจนะจนมิด ชาวบ้านที่ขายโรตีอยู่ริมถนนเห็นเหตุการณ์โดดเข้าช่วยโกยหินออกดึงร่างหนุ่มโรงงานออกมาได้รอดตายปาฏิหาริย์
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.คืนวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถบรรทุกพลิกคว่ำทับรถยนต์เก๋งที่ขับมาบนนถนนสายเอเชีย ช่วง กม.ที่ 16 อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ห่างจากสะพานต่างระดับประมาณ 1 กิโลเมตร ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และการจราจรติดขัดขัดยาวหลายกิโลเมตร จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังอาสาสมัครมูลนิธิพุธไธสวรรค์
จุดเกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุกพ่วง หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 79-9669 กรุงเทพมหานคร หมายเลขทะเบียนตัวลูก 79-9670 กรุงเทพมหานคร สถาพรถตัวลูกพ่วงพลิกตะแคงข้างซ้ายทับรถยนต์เก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน กธ 988 พระนครศรีอยุธยา สภาพเละแบนติดพื้นถนน นอกจากนี้ ถ่านหินที่อยู่ในรถบรรทุกที่บรรทุกมาเต็มคันรถยังได้ถล่มลงมาทับรถเก๋งคันดังกล่าวซ้ำอีก
ส่วนผู้บาดเจ็บที่อยู่ในรถเก๋งได้มีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้าช่วยเหลือไว้ได้ทันด้วยการใช้มือโกยถ่านหินที่ถล่มลงมาทับตัวรถออกมาก่อนที่จะดึงคนที่ติดภายในรถออกมาเอาชีวิตรอดได้สำเร็จราวปาฏิหาริย์ ท่ามกลางสายตาประชาชนที่มามุ่งดู และคิดว่าไม่น่าจะรอด ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ นายณัฐพงษ์ พงษ์เพิ่มเพชร อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 281 ม.3 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี มีอาการบาดเจ็บที่มือ และศีรษะ
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนได้ขับรถเพื่อจะกลับบ้านหลังจากเลิกงานภายในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ พอออกมาถนนสายเอเชียพบรถมีปริมาณมาก และมีการชะลอตัวเป็นช่วงๆ เนื่องจากเป็นทางเข้าออกปั๊มน้ำมัน และปั๊มแก๊ส และยังเป็นช่วงเวลาที่เลิกงานทำให้มีปริมาณรถมาก
ขนะชะลอตัวรถบรรทุกคันดังกล่าวได้วิ่งมาอย่างเร็ว พุ่งชนรถยนต์กระบะคันที่จอดต่อท้ายรถของตนอยู่ ก่อนที่คนขับรถบรรทุกคาดว่าจะหักพวงมาลัยหลบ จึงทำให้ท้ายรถเสียหลักพลิกคว่ำลงมาทับรถยนต์ของตน และเป็นจังหวะที่ตนเห็นเข้าพอดีจึงเอี้ยวตัวหลบไปทางเบาะนั่งข้างคนขับ จากนั้นพ่วงท้ายของรถบรรทุกก็ได้ทับลงมาที่รถก่อนถ่านหินที่บรรทุกจำนวนมากจะไหลมาทับจนไม่เห็นตัวรถ
“โชคดีที่มี นายประทีป โปร่งทอง อายุ 47 ปี คนขายโรตีข้างทางใกล้ที่เกิดเหตุวิ่งมาโกยถ่านหินที่ทับลงมา และช่วยดึงตัวตนออกมาจากรถได้ทัน ไม่เช่นนั้นผมคงจะไม่มีชีวิตรอดแน่” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เชื่ออีกว่า ตะกรุดที่ตนพกติดตัวสร้างปาฏิหาริย์ทำให้รอดชีวิตมาได้ พร้อมกับมีการสอบถาม นายณัฐพงษ์ ว่า ได้ตะกรุดดังกล่าวมาจากวัดไหน ซึ่งนายณัฐพงษ์ บอกว่า เป็นของที่เพื่อนให้มาไม่ทราบวัด แต่ได้มาจากวัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ยังพบรถยนต์ได้รับความเสียหายใกล้เคียงอีกกัน 2 คัน รวมรถที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ทั้งหมด 3 คัน ขณะที่คนขับรถบรรทุกคันที่ก่อเหตุได้อาศัยจังหวะที่เกิดเหตุชุลมุนหลบหนีไป คาดว่าอาจจะเกิดความกลัวว่าคนที่ขับรถเก๋งคันดังกล่าวจะถูกทับจนเสียชีวิต จึงทิ้งรถหลบหนี เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งตรวจสอบรถบรรทุกถ่านหินคันดังกล่าวว่าวิ่งมาจากที่ไหน และบริษัทอะไรเพื่อติดตามคนขับรถมาดำเนินคดีต่อไป