รถบรรทุกชนท้ายพ่วงแก๊สแอลพีจีรั่วฟุ้ง ระดมฉีดน้ำเลี้ยงนาน 2 ชม.
เกิดเหตุรถบรรทุกชนท้ายรถบรรทุกแก๊สแอลพีจี ขนาด 18 ตัน ส่งผลให้วาล์วแก๊สรั่วบริเวณถนนลาดกระบังขาเข้า เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถน้ำระดมฉีกน้ำเป็นฝอยเพื่อไม่ให้แก๊ส ฟุ้งกระจาย นานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนดำเนินการปิดหัววาล์วแก๊สสำเร็จ โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
วันนี้ (6 พ.ย.) ร.ต.ท.คิมหันฐ์ ศรีสุพรรณ์ พนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง ได้รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกแก๊สรั่วบริเวณถนนลาดกระบังขาเข้า ตรงข้าม ซ.ลาดกระบัง 3/1 แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบนถนนลาดกระบังขาเข้า ซึ่งเป็นถนน 3 เลน ตรงข้ามซอยลาดกระบัง 3/1 หน้าโรงเก็บรถยนต์มิตซูบิชิ ไม่มีเลขที่ของบริษัท เอ็น วาย เค ออโต้ โลจีสติกส์ บริเวณเลนที่สาม ช่องขวาสุด เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดการจราจรทั้งสองด้านโดยด้านขาเข้าตั้งแต่ปากซอยลาดกระบัง 28 ในส่วนขาออกได้ปิดการจราจรตั้งแต่หน้าวัดลานบุญ เนื่องจากตรวจพบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 79 - 0689 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถบรรทุกแก๊ส แอลพีจี ขนาด 18 ตัน ของบริษัท เอ็น เอส แก๊ส แอลพีจี จำกัด ยางหลังซ้ายด้านนอกแตกทั้ง 2 เส้น และมีแก๊สแอลพีจี กำลังรั่วไหลออกมาจากวาล์วด้านข้างของตัวรถเป็นจำนวนมาก
จากนั้นเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ได้ใช้รถน้ำจำนวน 4 คัน ระดมฉีดน้ำเป็นฝอย เพื่อไม่ให้แก๊สแอลพีจีฟุ้งกระจายมากไปกว่านี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการควบคุมสถานการณ์กว่า 2 ชั่วโมง โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายบุญชาย คุ้มใจดี อายุ 47 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง 14 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 77-7179 กทม. ท้ายพ่วงทะเบียน 77-7781 กทม. ซึ่งเป็นรถใช้สำหรับบรรทุกรถยนต์ คู่กรณีให้การว่าตนเองขับรถคันเกิดเหตุมาถนนร่มเกล้าเพื่อจะมารับรถยนต์ภายในโรงเก็บรถของบริษัท เอ็น วาย เค ออโต้ โลจีสติกส์ ถนนลาดกระบัง
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ขับรถมาในเลนที่สอง เพื่อที่จะตีวงเข้าไปภายในลาดจอดรถ ระหว่างกำลังเลี้ยง ส่วนหัวพ่วงได้เลี้ยวเข้าไปแล้วแต่ช่วงท้ายยังเข้าไม่หมด ตนเองได้ยิงเสียงเหมือนอะไรชนท้ายรถ ก่อนจะมารู้มามีรถแก๊สชนท้ายรถได้รับความเสียหายเล็กน้อยที่ไฟท้ายด้านขวาของตัวพ่วงเท่านั้น
ด้าน นายอุเทน โลหะการถ อายุ 30 ปี คนขับรถบรรทุกแก๊ส ให้การว่าตนเองขับรถมาจากแปดริ้ว และได้บรรทุกแก๊สแอลพีจีมาจำนวน 7 ตัน เพื่อไปส่งปั๊มแก๊สย่านประเวศ ระหว่างขับมาตามถนนลาดกระบังโดยตนเองขับอยู่ในเลนที่สอง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถบรรทุกพ่วง 14 ล้อ คู่กรณีกำลังตีวงจะเลี้ยว ตนเองเบรกไม่อยู่ จึงได้หักพวงมาลัยเข้าเลนที่สาม เพื่อหลบ แต่ไม่พ้น ทำให้ส่วนที่เป็นสลิงสำหรับเปิดวาล์วแก๊ส ไปเกี่ยวเข้ากับด้านท้ายรถพ่วงจนทำให้วาล์วเปิดออกทำให้แก๊สรั่วไหลออกมา
ร.ต.ท.คิมหันฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำคนขับรถทั้งสองคน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป