xs
xsm
sm
md
lg

แชร์สนั่น! คลิปกระบะซิ่งชนประสานงากลางโค้งศิลาชัยบุรีรัมย์พังยับ ปางตาย 2 ราย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์ - แชร์สนั่นคลิปเตือนอุบัติเหตุกระบะซิ่งชนประสานงากลางเส้นทึบห้ามแซงถนนสี่เลน บริเวณทางโค้งศิลาชัย บุรีรัมย์ใกล้กับสนามฟุตบอลไอ-โมบายสเตเดี้ยม ทำให้รถพังเสียหายยับเยินทั้งคู่ และผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย จนท.นำส่ง รพ.บุรีรัมย์ ทั้งยังส่งผลให้รถติดยาวเหยียด ตร.และหน่วยกู้ภัยฯ ต้องเร่งระบายรถ


วันนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอบันทึกภาพอุบัติเหตุเตือนภัยรถยนต์กระบะ 2 คัน ชนประสานงากันอย่างจังกลางเส้นทึบห้ามแซงที่บริเวณทางโค้งศิลาชัย ใกล้กับสนามฟุตบอลไอ-โมบายสเตเดี้ยม ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ถนนสี่เลน โดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของศูนย์จำหน่ายจักรยานยนต์บิ๊กไบค์สามารถบันทึกภาพไว้ได้ ได้รับความสนใจชาวออนไลน์และสื่อมวลชนนำไปแชร์เผยแพร่กันเป็นจำนวนมาก

โดยจากภาพในกล้องวงจรปิดดังกล่าวเห็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ แบบแค็บ สีเขียว หมายเลขทะเบียน บพ 489 บุรีรัมย์ ขับมาจากทางสนามไอ-โมบายสเตเดี้ยม มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณทางโค้งซ้ายเพื่อเข้าตัวเมือง รถกระบะคันดังกล่าวได้พยายามขับแซงขึ้นไปทางขวาทำให้พุ่งชนประสานงากับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเขียว ทะเบียน บฉ 3850 บุรีรัมย์ ที่วิ่งสวนมาอย่างจัง เป็นเหตุให้คนขับรถทั้งสองคันได้รับบาดเจ็บสาหัส

ทราบชื่อภายหลัง คือ นายชนัน จุดโต อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.2 ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และนายบำรุง แก้วประเสริฐ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.12 ต.เมืองเต่า อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม แต่ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับรถคันไหน เนื่องจากมีอาการสาหัสทั้งคู่ยังไม่สามารถให้การได้ ขณะที่สภาพรถพังเสียหายยับเยินทั้งคู่

โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 26 ก.พ. หลังได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ ได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมได้เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บที่มีอาการสาหัสทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน และขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และสอบปากคำคนขับทั้งสองคัน ถึงสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง




กำลังโหลดความคิดเห็น