ศูนย์ข่าวศรีราชา - โจรใจบาปหลอกพระลูกวัดพรหมมาวาส อำเภอศรีราชา ว่า ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ออกอุบายจะแบ่งเงินให้มาทำบุญให้แก่วัด 1 ล้านบาท และให้หลวงพี่ 1 ล้านบาท ก่อนหลอกพากดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม 40,000 บาท และปล่อยหลวงพี่ลงข้างทางหลบหนีลอยนวล
วันนี้ (26 ก.พ.) พ.ต.ต.อมรวัฒน์ ปานดี สารวัตรเวร สภ.ศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับการร้องเรียนจาก พระสุดใจ อายุ 70 ปี พระลูกวัดพรหมมาวาส เลขที่ 213 หมู่ 4 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่า ได้ถูกชายหญิงคู่หนึ่งหลอกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงิน 4 ล้านบาท จะแบ่งให้ก่อนหลอกพาไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มจำนวน 40,000 บาท หลบหนีไปอย่างลอยนวล
โดยพระสุดใจ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุได้มีชายอายุประมาณ 50 ปี ขับรถกระบะสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาหาที่วัด พร้อมอ้างว่าจะมาถวายสังฆทาน แต่แม่ป่วยเป็นอัมพาตอยู่ที่บ้านจะนิมนต์อาตมาไปรับสังฆทานที่บ้านได้หรือเปล่า อาตมาบอกว่าได้ จากนั้นก็เข้ามาถูกตัวอาตมา ซึ่งก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย คาดว่าจะถูกป้ายยาตามที่เป็นข่าว และนำตัวอาตมาขึ้นรถไป
พร้อมกล่าวว่า ตนทำงานอยู่ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เมื่อขับไปได้ระยะหนึ่งก็ขอเข้าไปถ่ายรูปในไร่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวัดเท่าไร อ้างว่าทางธนาคารจะรับจำนำที่ดินแปลงนี้
เมื่อถ่ายรูปเสร็จขับรถออกมาปากทางบริเวณซอยอัมรา ถนนเลียบทางรถไฟ ก็พบผู้หญิงโพกผ้าปิดบังใบหน้า เดินขายถุงมือมาถามว่า ทางไปอำเภอศรีราชาไปทางไหน ซึ่งคนขับรถได้บอกให้หญิงสาวคนดังกล่าวขึ้นรถเพื่อจะไปส่งในตัวเมืองศรีราชา ในจังหวะที่นั่งอยู่บนรถหญิงคนดังกล่าวได้นำถุงใส่ลอตเตอรี่ขึ้นมาดู โดยคนขับสอบถามว่าอะไร และก็ได้หยิบลอตเตอรี่ดังกล่าวไปตรวจ พบว่าถูกรางวัลที่ 1
จากนั้นคนขับรถก็พยายามต่อรองว่าจะขอซื้อต่อจากหญิงสาวเพื่อจะนำไปขึ้นเงินให้และขอมัดจำไว้ 1 แสนบาท แต่คนขับบอกว่ามีเงินอยู่เพียง 6 หมื่น จึงหันมาถามอาตมาว่ามีเงินอยู่เท่าไร อาตมาบอกว่ามีแต่อยู่ในธนาคารต้องไปกด คนขับรถจึงพามากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าเซเว่น ไร่กล้วย อำเภอศรีราชา จำนวน 4 หมื่นบาทไป แล้วบอกว่าหากไปขึ้นรางวัลจะได้เงิน 4 ล้านบาท จะนำเงินมาถวายวัด 1 ล้านบาท และถวายอาตมา 1 ล้านบาท
พระสุดใจ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นคนขับรถได้ขับพาอาตมาส่งที่บริเวณจุดที่มาถ่ายรูปที่ดิน บอกให้อาตมาลงรถ และรออยู่ตรงนี้เพื่อจะไปรับหญิงคนดังกล่าวไปขึ้นเงินที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน พร้อมมอบลอตเตอรี่ดังกล่าวให้อาตมาเก็บไว้ ซึ่งอาตมาก็ลงรถด้วยความมึน
หลังจากนั้น ก็ขับรถหายไป สักครู่ใหญ่ทั้งหมดไม่กลับมา อาตมาก็คิดว่าถูกหลอกแน่นอนจึงเดินกลับวัด พร้อมเล่าให้พระที่วัดทราบ ก่อนจะปรึกษา และนำความเข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ญาติโยมได้ทราบ และจะได้ระวังตัวหากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.ต.อมรวัฒน์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องไปตรวจสอบกล้องบริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าวว่าบันทึกหน้าคนร้ายไว้หรือไม่ เนื่องจากคนร้ายเป็นผู้ลงไปกดเงินด้วยตัวเอง เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามคนร้ายรายนี้ต่อไป เนื่องจากถือว่าเป็นแก๊งหลอกลวงต้มตุ๋นซึ่งกำลังระบาดหนักในขณะนี้