บุรีรัมย์ - ตำรวจบุรีรัมย์รวบหนุ่มเมืองลับแล พนักงานห้างดังหื่น ขี่จักรยานยนต์ไปตามถนนยามวิกาลหาเหยื่อสาวหวังชิงทรัพย์ ข่มขืน ใช้มีดอีโต้เป็นอาวุธ เจอสองสาวเหยื่อขี่จักรยานยนต์ใช้เท้าถีบล้มลงขู่เอามือถือ เห็นหญิงสาวนุ่งสั้นหน้าตาดีอุ้มไปถอดกางเกงหวังข่มขืน โชคดีพลเมืองดีขับรถผ่านมาช่วยเหลือไว้ได้ทัน ตำรวจตามรวบได้ที่บ้านเช่าพร้อมนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (26 ก.พ.) พ.ต.ท.แดน คงพลปาน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ พยายามชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายหญิงสาวแล้วฉุดเข้าป่าเพื่อพาไปพยายามข่มขืนกระทำชำเรา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุ บริเวณข้างถนน ระหว่างบ้านม่วง-ไทรโยง ถ.สายบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พบผู้เสียหายเป็นหญิงสาว 2 ราย คือ นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง กับ นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตกใจ
น.ส.เอให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีเพื่อนซ้อนท้าย เพื่อเดินทางกลับบ้านที่บ้านโพธิ์ไทร ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 25 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ตามประกบ ก่อนใช้อาวุธมีดอีโต้ออกมาขู่ให้จอดรถ แต่ตนไม่ยอมจอดคนร้ายจึงใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของตนจนเสียหลักล้มลงข้างทางทำให้ตนและเพื่อนได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นคนร้ายขี่จักรยานยนต์ไปจอดแล้วเดินตรงมาที่ตนพร้อมกับขู่ให้ส่งโทรศัพท์มือถือมา ต่อจากนั้นคนร้ายได้อุ้มตนเข้าไปชายป่าข้างลำห้วยปอหวังข่มขืน โดยได้ถอดกางเกงขาสั้นตนออกเพื่อจะข่มขืน แต่โชคดีมีคนขับรถยนต์ผ่านมาเห็นเพื่อนที่เจ็บอยู่ข้างทางจึงเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายตกใจจึงวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว และทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงยึดไว้ตรวจสอบ พร้อมกับนำตัวหญิงสาวทั้งสองรายส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์
หลังทราบข้อมูลเจ้าหน้าที่จึงประสานแจ้งทางวิทยุเพื่อให้ช่วยสกัดจับคนร้าย ระหว่างนั้นได้มีหญิงสาวมาแจ้งความต่อตำรวจว่ารถจักรยานยนต์หาย จึงพามาดูรถ จักรยานยนต์ที่ตรวจยึดมาจากที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าเป็นรถตรงตามที่ได้แจ้งหายไว้ จึงสอบสวนทราบว่า คนขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวคือ นายสุเทพ เถื่อนรอด อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 3 ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ทำงานเป็นพนักงานอยู่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และเป็นแฟนของหญิงสาวที่มาแจ้งความรถจักรยานยนต์หาย
พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.กัมพล วงษ์สงวน รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มานิตย์ สร้อยจิตร สว.สส. และตำรวจชุดสืบสวน ออกติดตามตัวนายสุเทพมาสอบสวน โดยมีแฟนสาวนายสุเทพพยายามเกลี้ยกล่อมให้มามอบตัว
จนกระทั่งเวลา 04.30 น. วันเดียวกัน ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว นายสุเทพ เถื่อนรอด ได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์
จากการสอบสวน นายสุเทพ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนสายบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายเป็นหญิงสองคนขี่รถจักรยานยนต์จึงขี่รถประกบข้าง พร้อมกับใช้อาวุธมีดอีโต้ออกมาขู่ให้จอดรถ แต่หญิงสาวไม่ยอมจอด จึงใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์จนล้มลงข้างทาง จากนั้นจึงจอดรถไว้ริมทาง แล้วเดินไปหาหญิงสาวพร้อมกับขู่ให้ส่งโทรศัพท์มือถือมา
แต่เนื่องจากหญิงสาวมีหน้าตาดี จึงเกิดเปลี่ยนใจแล้วอุ้มหญิงสาวคนดังกล่าวเข้าไปชายป่าข้างลำห้วยเพื่อจะข่มขืน โดยได้ถอดกางเกงขาสั้นของหญิงสาวออกแล้ว ขณะจะลงมือข่มขืนได้มีรถยนต์ผ่านมา ด้วยความตกใจจึงวิ่งลงทุ่งนาหลบหนีไป และทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ที่เกิดเหตุ
นายสุเทพให้การต่อว่า ขณะหลบหนีได้ติดต่อแฟนสาว บอกว่ามีเรื่องทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นจึงวิ่งหนีและทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ ขอให้แฟนสาวไปแจ้งความตำรวจว่ารถหาย แต่หลังจากแฟนสาวไปแจ้งความรถหายจึงทราบว่าตนไปก่อเหตุมา พร้อมกับเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวดังกล่าว พร้อมยอมรับได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกได้เพียงโทรศัพท์มือถือไป ไม่ได้ลงมือข่มขืนหญิงสาวแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.กัมพล วงษ์สงวน รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มานิตย์ สร้อยจิตร สว.สส. พ.ต.ท.แดน คงพลปาน สารวัตรสอบสวน และตำรวจชุดสืบสวน ได้นำตัวนายสุเทพ เถื่อนรอด ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณข้างถนน ระหว่างบ้านม่วง-ไทรโยง ถ.สายบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาพยายามชิงทรัพย์โดยมีอาวุธมีดเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และอันตรายสาหัส พยายามข่มขืนกระทำชำเรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป