ลุยสอบที่พักสงฆ์อดีตพระฉาว ไม่พบ “สมีเกษม” แม้เงา แต่ลูกศิษย์ตามประกบ ว.รายงานทุกฝีก้าว

เพชรบูรณ์ - เจ้าหน้าที่ลุยตรวจสอบ-จัดระเบียบที่พักสงฆ์ของ “สมีเกษม” เนื้อที่ 100 ไร่กลางป่าน้ำหนาว ไม่พบอดีตพระฉาวแม้แต่เงา แต่ขณะตรวจลูกศิษย์กลับตามประกบ ถ่ายวิดีโอทุกฝีก้าว แถมวิทยุรายงานอดีตเจ้าสำนักละเอียดยิบ ส่วนคดีสนาม ฮ.รุกป่าสงวน รอผู้ว่าฯ ลงนามบังคับตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ม.25

วันนี้ (24 ก.พ.) นายธัญเทพ หมื่นยุทธ ผอ.สำนักพุทธศาสนา จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.เพชรบูรณ์ รวมทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สำนักงานพระพุทธศาสนา และป่าไม้ราว 100 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบที่พักสงฆ์ป่าสามแยก หมู่ 6 ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ของอดีตพระเกษม อาจิณณสีโล หรือนายเกษม ดวงแพงมาต ที่มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ เพื่อเตรียมจัดระเบียบหลังอดีตพระเกษมต้องอาบัติปาราชิก และมีการแต่งตั้งพระรูปอื่นมารักษาการแทน

โดยผลการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด และยังไม่พบอดีตพระเกษมภายในที่พักสงฆ์ดังกล่าวด้วย แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้น นายสำลี นันทะญาติ หรือตาฤาษี ได้สอบถามถึงหมายค้นจากทางเจ้าหน้าที่ จน พ.ต.ท.เอนก ทิพย์สุวรรณ รอง ผกก.สส.สภ.น้ำหนาว ต้องชี้แจงว่าเป็นการปฏิบัติงานภายใต้กฎอัยการศึก ไม่จำเป็นต้องใช้หมายค้น

และขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แยกย้ายกันเข้าตรวจสอบกุฎิที่กระจายอยู่ในป่า และเป็นโซนที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้า ทางที่พักสงฆ์ป่าสามแยกมีการจัดลูกศิษย์ของอดีตพระเกษม ติดตามประกบดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกขั้นตอน และยังใช้วิดีโอถ่ายบันทึกไว้อย่างละเอียด จากนั้นจะใช้วิทยุสื่อสารรายงานให้ทางนายเกษม ดวงแพงมาต ให้ทราบทุกระยะอีกด้วย

นอกจากนี้ ระหว่างเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบกุฏิของอดีตพระเกษม ซึ่งมีการปิดประตูใส่กุญแจไว้ นายสำลี นันทะญาติ ผู้ดูแลที่พักสงฆ์ ยังใช้วิทยุสื่อสารหารือนายเกษม อีกด้วย กระทั่ง พ.ต.ท.เอนก ทิพย์สุวรรณ รอง ผกก.สส.สภ.น้ำหนาว แจ้งให้นายเกษมออกมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีการจับกุมตัวแต่อย่างใด

ส่วนการตรวจสอบพระภิกษุ 4 รูปพบว่าเป็นพระที่บวชโดยถูกต้อง แต่ต้นสังกัดอยู่ในภาคอีสาน 3 รูป และอยู่ทางภาคเหนือ 1 รูป ซึ่งทาง ผอ.พศ.จังหวัดได้แนะนำว่า หากต้องการจะจำพรรษาอยู่ในที่พักสงฆ์แห่งนี้ต่อไปให้ย้ายมาสังกัดคณะสงฆ์เพชรบูรณ์ และแจ้งด้วยว่าการแต่งตั้งประธานที่พักสงฆ์รวมทั้งผู้ดูแลเป็นอำนาจของพระผู้ปกครอง

ส่วนการตรวจสอบการขอใช้ที่ดินจำนวน 100 ไร่จากกรมปาไม้ ทางป่าไม้แจ้งว่าไม่พบการปลูกสร้างเพิ่มเติมจากการสำรวจเมื่อปี 2554 ซึ่งมีอยู่ 91 รายการ แต่ปัจจุบันหายไป 6 รายการ ทำให้เหลือแค่ 85 รายการ แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังตั้งข้อสงสัยด้วยว่า บ้านพักของฆราวาสที่ทำพักอาศัยในเขตป่ามีการออกบ้านเลขที่ได้อย่างไร

นายธัญเทพ หมื่นยุทธ ผอ.พศ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบภารกิจแต่ละส่วนต่างแจ้งว่าไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ส่วนการตรวจสอบพระภิกษุที่อยู่ในที่พักสงฆ์แห่งนี้จำนวน 4 รูปพบว่าเป็นพระที่มาจากที่อื่น คือ ภาคอีสาน 3 รูป ภาคเหนือ 1 รูป และเมื่อตรวจสอบหนังสือสุทธิก็พบว่าเป็นพระที่บวชถูกต้อง จึงให้คำแนะนำให้ทำตามระเบียบสงฆ์ โดยให้ย้ายมาอยู่สังกัดที่เพชรบูรณ์ให้ถูกต้อง โดยพระภิกษุเหล่านี้แจ้งว่า ยินดี แต่ขอเวลา และหากจะอยู่หรือไม่อยู่จะแจ้งให้ทราบ

“ส่วนการแต่งตั้งประธานที่พักสงฆ์ป่าสามแยก เมื่อสอบถามก็ได้รับแจ้งว่า คณะกรรมการเป็นคนแต่งตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด เพราะผู้ปกครองสงฆ์จะต้องเป็นผู้แต่งตั้ง”

นายธัญเทพกล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวอยากนิมนต์พระทั้ง 4 รูปกลับสังกัด แล้วมาจัดระเบียบใหม่ให้ถูกต้อง เท่าที่ฟังเสียงท่านเองก็ไม่อยากสร้างปัญหา ก็จะประสานทางคณะสงฆ์ให้ทราบเพื่อให้พระอุปัชฌาย์เรียกพระทั้ง 4 รูปกลับต้นสังกัดปัญหาจะได้จบ ไม่เช่นนั้นหากปล่อยไว้อาจมีผู้มีอิทธิพล จะทำให้เกิดปัญหายุ่งยากในภายหลังอีก

ด้านนายสมบูรณ์ จำปาอูป ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เปิดเผยว่า ส่วนคดีบุกรุกผืนป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 14 เพื่อสร้างสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ หมู่ 6 ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว เนื้อที่ 1-1-44 ไร่ ยังไม่เข้าไปดำเนินการ เนื่องจากสามารถบังคับใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 25 รื้อถอนได้ เพียงแต่รอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น ซึ่งล่าสุดทราบว่าแม่ทัพภาคที่ 3 ก็เห็นชอบว่าให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มียกเว้นแล้ว