อุดรธานี - ตัวแทนสภาทนายความฯ พาสาวลาวร้องขอความเป็นธรรมตำรวจเมืองอุดรธานี หลังเกิดเหตุทลายแหล่งค้าประเวณีสาวลาวเมื่อ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุตนและน้องสาวไม่ได้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ตามที่สื่อประโคมข่าว ยันมาพักอาศัยที่อุดรธานีเพื่อรอสามีชาวญี่ปุ่นมารับไปอยู่ด้วย
วันนี้ (23 ก.พ. 58) นายดุสิต พรหมสิทธิ์ ตัวแทนของสภาทนายความจังหวัดอุดรธานี พร้อมนางนา (ไม่มีนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาวบ้านหนองสาน เมืองกาสี แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และเอกสารจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีน้องสาวถูกจับและเพื่อนถูกจับข้อหา “เข้าไปมั่วสุมในสถานค้าประเวณี เพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น” ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ตามหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม นางนา สรุปใจความว่า ตามที่สื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่ออื่นๆ ได้เสนอข่าวในลักษณะทำนองว่า นางนาง (ไม่มีนามสกุล) กับนางบุญเทียน อยู่งาม เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์นั้น ไม่เป็นความจริง ความจริงแล้วนายเพ็ด ลาวัน ได้ชักชวนข้าพเจ้าเข้ามาประเทศไทยเพื่อหาสามีชาวญี่ปุ่นให้ ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วก็ได้สามีชาวญี่ปุ่นจริงตามที่ได้รับปากไว้ ต่อมาแม่ได้เสียชีวิตลง ข้าพเจ้ากับแฟนชาวญี่ปุ่นจึงเดินทางไปรับนางนาง น้องสาวมาอยู่ด้วยกันที่จังหวัดอุดรธานี
โดยได้เช่าห้องพักในซอยกิจขยันเพื่อรอสามีชาวญี่ปุ่มทำเรื่องเดินทางไปอยู่ที่ญี่ปุ่น ระหว่างรอนั้นนายเพ็ด ลาวัน ได้ชักชวนให้มาค้าประเวณีจนมาถูกจับกุม พร้อมน้องสาว ซึ่งข้าพเจ้าได้ถูกเปรีบเทียบปรับแล้วถูกส่งตัวกลับ สปป.ลาว ส่วนน้องสาวได้ถูกส่งตัวไปสถานีคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านนารีสวัสดิ์ จังหวัดนครราชสีมาและยังไม่ถูกส่งตัวกลับ
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่านางนางเข้ามาในประเทศไทยโดยข้าพเจ้าเป็นคนไปพามา เพื่อเตรียมรอนำน้องสาวไปอยู่ด้วยกันที่ญี่ปุ่น ไม่ได้เข้ามาด้วยการชักชวนของนายเพ็ด ลาวัน แต่อย่างใด ส่วนนางบุญเทียน อยู่งาม ที่เป็นเพื่อนได้เข้ามาประเทศไทยอย่างถูกต้อง ดังนั้นข้าพเจ้ายืนยันว่านางนาง น้องสาว ไม่ได้เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ตามที่เป็นข่าวตามสื่อต่างๆ
พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้เสียหายเอาไว้แล้ว จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่อไป และในส่วนที่ผู้ร้องร้องว่าน้องสาวไม่ได้เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ตนจะสั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อไป
ด้านนายดุสิต พรหมสิทธิ์ ตัวแทนของสภาทนายความจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ผู้ร้องเรียนเดินทางกลับไป สปป.ลาว หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินการตามกฎหมายแล้วได้ไปร้องเรียนต่อทางกงสุลที่นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งทางกงสุลฯ ได้แนะนำให้ทำเอกสารร้องเรียนกับทางสภาทนายความจังหวัดอุดรธานี เฉพาะในส่วนของ นางนาง น้องสาวของผู้ร้องนั้น ไม่ได้เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ แต่เอาน้องสาวมาเพื่อรอเวลาเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น และผู้ร้องมีหลักฐานคือสำเนาสำมะโนครัวที่ระบุว่า นางนาง น้องสาวอายุ 19 ปี