กาฬสินธุ์ - ลือหึ่ง! ชาวบ้านกาฬสินธุ์จี้ “บิ๊กเมืองน้ำดำ” ตรวจสอบกลุ่มบุคคลตั้งแก๊งอ้างเป็นตำรวจตระเวนจัดแถวตั้งตัวเป็นชุดเฉพาะกิจเมืองน้ำดำเก็บค่าต๋งบ่อนพนันใหญ่-เล็ก ผวาสังคมมืดอิทธิพลเถื่อนหน้าใหม่โผล่ยุค คสช.
แหล่งข่าวระดับสูงที่เชื่อถือได้ในจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดเผยว่า จากการติดตามนโยบายการแก้ไขสารพัดปัญหาภายใต้เงาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการปราบปรามปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ รวมถึงแนวทางการปฏิรูประบบการเมือง การปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมสีกากี ตำรวจไทย เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องขอความร่วมมือในการจัดระเบียบสังคมก่อนทำการปฏิรูประบบราชการตำรวจทั้งระบบ
จากการสอบถามประชาชนเบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่มีความพึงพอใจ ซึ่งแนวร่วมในการปราบปรามหลักนั้นคือทหาร แต่ภายหลังจากที่กระบวนการปฏิรูปเริ่มเดินหน้ากลับพบความผิดปกติ โดยเฉพาะที่จังหวัดกาฬสินธุ์มีการโยกย้ายข้าราชการตำรวจเพื่อปรับปรุงให้การทำงานภายใต้นโยบายความปรองดองเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“แต่ปรากฏว่าตั้งแต่เข้าต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มาตรการเดือนแห่งความรักกลับกลายเป็นประเด็นคำถามถึงกลุ่มบุคคล ซึ่งอ้างเป็นตำรวจชุดเฉพาะกิจ ที่ประพฤติมิชอบเข้าเรียกเก็บค่าต๋งจากบ่อนใหญ่ บ่อนเล็กตามพื้นที่ต่างๆ แทนที่จะดำเนินการปราบปราม ซึ่งได้สร้างความมึนงงให้แก่ชาวบ้านอย่างมาก จนทำให้เกิดความหวาดผวาว่าสังคมอิทธิพลเถื่อนที่เพิ่งจะถูกกวาดล้างไป จะกลายเป็นเนื้องอกสายพันธุ์ใหม่ที่ยากเกินเยียวยา” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวคนเดียวกันเปิดเผยต่ออีกว่า กรณีนี้กำลังเป็นปัญหา เพราะทำให้ตำรวจเมืองน้ำดำกำลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้านที่บ่นถึงกลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งมีพฤติการณ์ทำงานสวนกระแสนโยบายของ คสช.จนเกรงว่าจะเกิดสังคมหน้าใหม่ ซึ่งหากกลุ่มคนดังกล่าวที่อ้างเป็นตำรวจชุดเฉพาะกิจนั้นเป็นตำรวจจริงคงจะเป็นเรื่องที่เสียหายอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ทางหัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดจะต้องออกมาชี้แจงและตอบคำถามของชาวบ้านว่าชุดเฉพาะกิจชุดนี้มีจริงหรือไม่
“หากมีจริงก็คงต้องตอบคำถามให้ได้ว่า สิ่งที่ชุดปฏิบัติการชุดนี้อ้างถึงเป็นความจริงหรือ และหากไม่เป็นความจริงเป็นเพียงกลุ่มบุคคลที่คอยอ้างนายเพื่อหาผลประโยชน์จากบ่อนการพนันเข้ากระเป๋าตัวเอง เชื่อว่าปัญหานี้คงจะได้รับการแก้ไข” แหล่งข่าวกล่าว และว่า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหานี้คงไม่ต้องถึงกับวิ่งไปหาคำตอบให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ลงมาสอบสวนเอง เพราะเราเชื่อว่าเรื่องนี้ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ คงจะดำเนินการตรวจสอบเองได้ และหากพบว่าเป็นจริงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ควรที่จะดำเนินการต่อบุคคลเหล่านี้ทันทีไม่ควรที่จะปล่อยไว้
แหล่งข่าวระดับสูงที่เชื่อถือได้ในจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดเผยว่า จากการติดตามนโยบายการแก้ไขสารพัดปัญหาภายใต้เงาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการปราบปรามปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ รวมถึงแนวทางการปฏิรูประบบการเมือง การปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมสีกากี ตำรวจไทย เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องขอความร่วมมือในการจัดระเบียบสังคมก่อนทำการปฏิรูประบบราชการตำรวจทั้งระบบ
จากการสอบถามประชาชนเบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่มีความพึงพอใจ ซึ่งแนวร่วมในการปราบปรามหลักนั้นคือทหาร แต่ภายหลังจากที่กระบวนการปฏิรูปเริ่มเดินหน้ากลับพบความผิดปกติ โดยเฉพาะที่จังหวัดกาฬสินธุ์มีการโยกย้ายข้าราชการตำรวจเพื่อปรับปรุงให้การทำงานภายใต้นโยบายความปรองดองเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“แต่ปรากฏว่าตั้งแต่เข้าต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มาตรการเดือนแห่งความรักกลับกลายเป็นประเด็นคำถามถึงกลุ่มบุคคล ซึ่งอ้างเป็นตำรวจชุดเฉพาะกิจ ที่ประพฤติมิชอบเข้าเรียกเก็บค่าต๋งจากบ่อนใหญ่ บ่อนเล็กตามพื้นที่ต่างๆ แทนที่จะดำเนินการปราบปราม ซึ่งได้สร้างความมึนงงให้แก่ชาวบ้านอย่างมาก จนทำให้เกิดความหวาดผวาว่าสังคมอิทธิพลเถื่อนที่เพิ่งจะถูกกวาดล้างไป จะกลายเป็นเนื้องอกสายพันธุ์ใหม่ที่ยากเกินเยียวยา” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวคนเดียวกันเปิดเผยต่ออีกว่า กรณีนี้กำลังเป็นปัญหา เพราะทำให้ตำรวจเมืองน้ำดำกำลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้านที่บ่นถึงกลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งมีพฤติการณ์ทำงานสวนกระแสนโยบายของ คสช.จนเกรงว่าจะเกิดสังคมหน้าใหม่ ซึ่งหากกลุ่มคนดังกล่าวที่อ้างเป็นตำรวจชุดเฉพาะกิจนั้นเป็นตำรวจจริงคงจะเป็นเรื่องที่เสียหายอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ทางหัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดจะต้องออกมาชี้แจงและตอบคำถามของชาวบ้านว่าชุดเฉพาะกิจชุดนี้มีจริงหรือไม่
“หากมีจริงก็คงต้องตอบคำถามให้ได้ว่า สิ่งที่ชุดปฏิบัติการชุดนี้อ้างถึงเป็นความจริงหรือ และหากไม่เป็นความจริงเป็นเพียงกลุ่มบุคคลที่คอยอ้างนายเพื่อหาผลประโยชน์จากบ่อนการพนันเข้ากระเป๋าตัวเอง เชื่อว่าปัญหานี้คงจะได้รับการแก้ไข” แหล่งข่าวกล่าว และว่า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหานี้คงไม่ต้องถึงกับวิ่งไปหาคำตอบให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ลงมาสอบสวนเอง เพราะเราเชื่อว่าเรื่องนี้ พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ คงจะดำเนินการตรวจสอบเองได้ และหากพบว่าเป็นจริงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ควรที่จะดำเนินการต่อบุคคลเหล่านี้ทันทีไม่ควรที่จะปล่อยไว้
