ศูนย์ข่าวศรีราชา - ระทึกป่วนวันวาเลนไทน์! โรงผลิตน้ำแข็งสัตหีบระเบิด ก๊าซแอมโมเนียรั่ว ทำให้คนงานพากันวิ่งหนีตายอลหม่าน ผู้ว่าฯ ชลบุรี สั่งระงับผลิตชั่วคราว เผยสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากวาล์วห รือลิ้นเปิดปิดท่อส่งแอมโมเนียชำรุด
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (14 ก.พ.) นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายชวัฒน์ เทพทัพ ปลัดฝ่ายความมั่นคง และนายสมศักดิ์ ทับกลัด กำนันตำบลนาจอมเทียน ได้เดินทางเข้าตรวจสอบโรงผลิตน้ำแข็งสัตหีบ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 5 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ หลังเกิดเหตุเครื่องผลิตน้ำแข็งระเบิดจนทำให้ก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล ทำให้คนงานพากันวิ่งหนีตายอลหม่าน แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
เบื้องต้น รถดับเพลิงเทศบาลตำบลนาจอมเทียน ได้เข้าระดมฉีดน้ำกว่า 30 นาที เพื่อให้ก๊าซฟุ้งกระจาย จนขณะนี้สถานการณ์ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
นางสมพงษ์ อยู่หาร อายุ 51 ปี เจ้าของกิจการ กล่าวว่า โรงงานผลิตน้ำแข็งแห่งนี้ได้เปิดทำการมานานกว่า 40 ปี และเป็นโรงงานผลิตน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอสัตหีบ ปัจจุบันมีเครื่องจักรผลิตน้ำแข็ง จำนวน 5 เครื่อง ก่อนเกิดเหตุขณะที่คนงานกำลังทำงานอยู่นั้น เครื่องจักรตัวที่ 2 ได้เกิดเหตุวาล์วปิดเปิดรั่วจนระเบิดขึ้น ทำให้ก๊าซแอมโมเนียที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำแข็งจำนวนมากได้รั่วไหลฟุ้งกระจายปกคลุมตัวโรงงาน ทำให้คนงานกว่า 10 คน พากันวิ่งหนีตายกันอลหม่าน ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเข้ามาระงับเหตุไว้ได้ทัน
ส่วนสาเหตุจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เกิดจากวาล์ว หรือลิ้นเปิดปิดท่อส่งแอมโมเนีย ชำรุด แรงอัดจึงทำให้เกิดระเบิดมีเสียงดังสนั่น
ด้าน นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอสัตหีบ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าทำการตรวจสอบ พร้อมรายงานให้ นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี รับทราบ จึงมีคำสั่งให้ทางโรงงานระงับการเดินเครื่องผลิตน้ำแข็งชั่วคราว รอให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัย ซึ่งหลังมีการตรวจสอบ และซ่อมทำจนเสร็จสมบูรณ์ก็จะอนุญาตให้เปิดทำการได้ตามปกติ
สำหรับก๊าซแอมโมเนีย จะมีกลิ่นฉุนรุนแรง เมื่อผสมกับอากาศจะติดไฟได้ มีพิษต่อเนื้อเยื้อต่างๆ ของร่างกาย เช่น ตา ผิวหนัง เยื่อจมูก เยื่อบุทางเดินระบบหายใจ ถ้าในสภาพที่ถูกอัดให้เป็นของเหลวจะมีฤทธิ์กัดผิวหนังได้รุนแรงมาก ก๊าซแอมโมเนีย จะเริ่มทำให้แสบตาตั้งแต่ความเข้มข้น 130-200 ถ้าเข้มข้นถึงระดับ 2,500 พีพีเอ็ม อาจทำให้เกิดของเหลวในปอด (Pulmonary edema) และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
