ตราด - หลายหน่วยงานร่วมให้การช่วยเหลือ 2 เด็กหญิงครอบครัว “เอมอ่อน” ซึ่งมีฐานะยากจนและต้องเดินเท้าจากบ้านไปเรียนไกลถึง 8 กิโลเมตร ด้วยการจัดหาที่อยู่ใหม่ที่ไม่ไกลจากโรงเรียนให้ พร้อมเปิดบัญชีให้ผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือให้ได้มีโอกาสได้เรียนจนถึงชั้นสูงสุด
วันนี้ (13 ก.พ.) นายเกษม มั่นคง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างทูน พร้อมด้วย นายสมชาย หนูอิน ประธานเทศบาลตำบลหนองบอน นางบงกช เกิดคง รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ และ น.ส.กิติมา ทวาเรศ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ร่วมกันชี้แจงถึงแนวทางการช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ญ.ชนาพร และ ด.ญ.ทศพร เอมอ่อน
หลังสื่อมวลชนได้ช่วยกันเผยแพร่เรื่องราวของเด็กหญิงทั้ง 2 ที่ต้องเดินจากบ้านไปโรงเรียน รวมระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เนื่องจากมีฐานะยากจน
ขณะที่บิดาป่วยด้วยอาการทางสมอง จนไม่สามารถทำมาหากินได้ ส่วนมารดามีอาชีพรับจ้าง และมีรายได้ไม่ถึง 200 บาท ขณะที่บางวันก็ไม่มีรายได้เลย
ในเบื้องต้น นายเกษม มั่นคง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างทูน จังหวัดตราด ได้รับปากที่จะให้การช่วยเหลือเรื่องเบี้ยยังชีพคนพิการที่ อบต.จะจ่ายให้ทุกเดือน อย่างไรก็ดี หลังมีการเผยแพร่ข่าวสารของสื่อมวลชน ทำให้ในช่วงวานนี้มีผู้มีจิตศรัทธาโทรศัพท์ติดต่อมาหาถึง 200 สาย เพื่อแจ้งความจำนงที่จะช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว โดยบางรายประสงค์จะมอบรถจักรยาน รวมทั้งรถจักรยานยนต์ให้ ส่วนบางคนแจ้งความจำนงจะช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง 2 ให้เรียนจนจบ
“นอกจากนี้ ยังมีคนจากประเทศฝรั่งเศส และเยอรมนีโทรศัพท์มาบอกว่า ได้รับรู้เรื่องราวของเด็กหญิงจากโลกออนไลน์ และประสงค์จะช่วยเหลือแต่ผมก็ได้ตอบปฏิเสธในเรื่องรถจักรยาน และรถจักรยานยนต์ เพราะน้อง 2 คนขี่ไม่เป็น แต่ขอให้บริจาคเป็นเงินเข้าบัญชีแทน” นายเกษม กล่าว
ด้าน นายสมชาย หนูอิน ประธานเทศบาลตำบลหนองบอน กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ประชุม และลงความเห็นกันว่า จะแก้ปัญหาให้เด็กทั้ง 2 ได้เดินทางไปเรียนหนังสือให้เร็วขึ้น โดยจะจัดหาบ้านหลังใหม่ให้ และจะให้ใช้พื้นที่ในป้อมยามของ อพปร. เทศบาลตำบลหนองบอน ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่เกิน 200 เมตร เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวไปก่อน และจะหาทางขยายให้มั่นคงกว่าที่เป็นอยู่
“ตอนนี้พวกเราทุกคนต้องการช่วยเหลือเด็กให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือจนจบ และไม่ต้องระเหเร่ร่อนไปที่ไหนอีก ส่วนปัญหาของพ่อเด็กก็จะพยายามเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อให้ปรับพฤติกรรมส่วนตัวเสียใหม่ พร้อมกันนี้ ก็จะสอบถามว่าต้องการทำงานอะไรเพื่อจะได้มีรายได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนเรื่องค่าน้ำค่าไฟทางหมู่บ้านจะช่วยกันดูแล” นายสมชาย กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้เทศบาลตำบลหนองบอน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบอน ได้เดินทางเข้าไปยังบ้านของ นางแต และนายประจักษ์ เอมอ่อน ซึ่งเป็นบิดาและมารดา เพื่อเจรจาขอให้ย้ายบ้านออกมาจากในสวนที่อยู่ไกลจากโรงเรียนถึง 8 กิโลเมตร และให้มาพักยังบ้านพักที่เทศบาลตำบลหนองบอนจัดหาให้ ซึ่งทั้ง 2 คนยินดีที่จะย้ายออกมา และเทศบาลฯ ได้นำรถยนต์กระบะช่วยขนของเพื่อย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนั้น ในวันนี้ ด.ญ.ชนาพร และ ด.ญ.ทศพร เอมอ่อน ก็ได้เดินทางไปโรงเรียนตามปกติแล้วหลังจากต้องหยุดเรียนไป ซึ่งทั้ง 2 คนยังคงร่าเริงแจ่มใส และเข้ากลุ่มกับเพื่อนนักเรียนได้ดี
ด้านนางบงกช เกิดคง รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ กล่าวว่า เด็กหญิงทั้ง 2 ได้ย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยพบว่าเด็กขาดเรียนบ่อยมาก และจะมาเรียนเพียงสัปดาห์ละ 3 วันเท่านั้น บางสัปดาห์ก็หยุดมากกว่า 3 วัน และจากสถิติการเรียนในปีที่ผ่านมา พบว่า มาเรียนเพียง 28 วัน จากเวลาเรียน 100 วัน
“เมื่อเด็กขาดเรียน ครูประจำชั้นก็จะไปตามให้มาเรียน ซึ่งก็ทราบว่าบ้านพักอยู่ไกล ซึ่งโรงเรียนให้การช่วยเหลือได้ในส่วนของอาหารกลางวัน ส่วนปัญหาครอบครัวนั้นไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง”
สำหรับผู้ที่ต้องการให้การช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง 2 สามารถบริจาคเงินได้ที่บัญชีธนาคารทหารไทย สาขา อ.บ่อไร่ 416-2-34720-9 ในนามโรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ ซึ่งเป็นการเปิดบัญชีร่วมกันระหว่างโรงเรียน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างทูน และประธานสภาเทศบาลตำบลหนองบอน เพื่อร่วมกันดูแล
ส่วนผู้ที่ต้องการมอบเป็นสิ่งของสามารถส่งไปได้ที่โรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ หรือที่อยู่บ้านเลขที่ 28/2 หมู่ 5 ตำบลช้างทูน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด