ศูนย์ข่าวศรีราชา - เลขานุการโทและกงสุล สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย เข้าพบ ผกก.สภ.ศรีราชา ให้ช่วยดูแลความปลอดภัยชาวญี่ปุ่น และนักเรียนในพื้นที่กว่า 8,000 คน หลังจากกลุ่ม IS สังหารผู้สื่อข่าวอิสระ และตัวประกันชาวญี่ปุ่นไปแล้วถึง 2 ราย พร้อมขู่เจอคนญี่ปุ่นที่ไหนจะฆ่าทิ้งที่นั่นอีก
หลังจากเหตุการณ์กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ IS ได้สังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่น คือ นายเคนจิ โกโตะ ผู้สื่อข่าวอิสระ และนายฮารุนะ ยูคาวะ ตัวประกันชาวญี่ปุ่น พร้อมยังประกาศฝากคำขู่ไปถึงนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ว่า “จะไม่เพียงแค่สังหารเคนจิ แต่จะสังหารต่อไป และทำให้เกิดการนองเลือดทุกที่ที่พบประชาชนของคุณ ฝันร้ายของญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้นแล้ว” ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มกังวลถึงความปลอดภัยของคนญี่ปุ่น ซึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีประชากรชาวญี่ปุ่นมาพักอาศัย และทำงานอยู่มากที่สุดในประเทศไทยถึงประมาณ 8,000 คน
วันนี้ (12 ก.พ.) นายเคนอิจิ ซิงะโกชิ เลขานุการโทและกงสุล สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย แผนกกงสุล พร้อมด้วย นายมาซาฮิโระ โยชิโอกะ ผู้ช่วยเลขานุการ และผู้ช่วยฝ่ายรักษาความปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เข้าพบ พ.ต.อ.ภพพล จักกะพาก ผกก.สภ.ศรีราชา และนายกิตติศักดิ์ กิจโชคเจริญสกุล ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานสถานีตำรวจศรีราชา เพื่อขอความร่วมมือในการดูแลความปลอดภัยคนญี่ปุ่น และเด็กนักเรียนที่พักอาศัยอยู่ใน อ.ศรีราชา อย่างเข้มงวดด้วย
พ.ต.อ.ภพพล กล่าวว่า จากการพูดคุยกันทำให้นายเคนอิจิ ซิงะโกชิ เลขานุการโทและกงสุล สบายใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย โดยทางตำรวจได้ให้ความสำคัญต่อประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในชลบุรีอยู่แล้ว จากรายงานก็ไม่พบว่ามีกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในพื้นที่ แต่เพื่อความปลอดภัย และความสบายใจของชาวญี่ปุ่น หากพบเหตุการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ ก็สามารถติดต่อมาได้ที่ สภ.ศรีราชา ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนเด็กนักเรียนในโรงเรียนญี่ปุ่น ก็จะมีเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าตรวจสอบในเวลาเข้าเรียน และเลิกเรียนเป็นปกติอยู่แล้วขอให้ชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในพื้นที่สบายใจได้
