xs
xsm
sm
md
lg

โอละพ่อ!! ชาวบ้านนครพนมร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ ชี้ตำรวจจับไอ้หื่นปล้ำเด็กกวาดขยะคือแพะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชาวบ้านบ้านท่าควาย อำเภอเมืองนครพนม พร้อมพ่อแม่ผู้ต้องหาไล่ปล้ำเด็กหญิงกวาดขยะ เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมนครพนมว่า ตำรวจจับตัวผู้ต้องหาคือแพะ
นครพนม - โอละพ่อ!! ชาวบ้านพาพ่อ-แม่ผู้ต้องหาบุกปล้ำเด็กกวาดถนนร้องขอความเป็นธรรมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม ยันตำรวจนครพนมจับผิดตัว ทั้งออกอุบายจะพาผู้ต้องหาไปออกทีวี มั่นใจผู้ต้องหาเป็นแพะ ขณะที่พยานพร้อมให้ปากคำช่วยผู้ต้องหาเพียบ

วันนี้ (11 ก.พ. 58) ชาวบ้านบ้านท่าควาย ประมาณ 20 คน รวมตัวกันพานายหาญ ชนะพจน์ และนางจันทร์เพ็ญ หอมมาลี พ่อและแม่ของนายไพศาล ชนะพจน์ ผู้ต้องหาในคดีบุกเข้าไปปลุกปล้ำเด็กหญิงขณะกำลังช่วยแม่กวาดขยะกลางถนนช่วงเช้ามืดวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา บริเวณหน้าริมรั้วบ้านพักผู้พิพากษา ถนนลูกเสือในเขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยทั้งหมดได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมนครพนม เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวคือ นายไพศาล ชนะพจน์ ว่าเป็นการจับผู้ต้องหาผิดตัว

โดยบิดาและมารดาของนายไพศาล ผู้ต้องหา ให้ข้อมูลว่า หวั่นเกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนมน่าจะจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุผิดตัว หวั่นเป็นแพะ ทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดีซึ่งยังหลบหนีลอยนวล โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องไว้ ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 146 ซอยร่วมพัฒนาชุมชนวัดทุ่งประชานารถ ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม ซึ่งเป็นบ้านของบิดาและมารดานายไพศาล เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยนายหาญ บิดาผู้ต้องหา กล่าวว่า บุตรชายคือนายไพศาล มีอาชีพรับจ้างส่งน้ำแข็ง เคยได้รับอุบัติเหตุตกต้นไม้ ขาซ้ายจากน่องจนถึงหน้าแข้งใช้ผ้าพันแผลไว้ตลอด วันเกิดเหตุที่คนร้ายวิ่งหนีตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้นั้น นายไพศาลไม่น่าจะวิ่งหนีได้เร็วขนาดนั้น เพราะบุตรชายยังเจ็บขา และไม่สามารถใส่รองเท้าผ้าใบได้เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเท้า

นายชาญณรงค์ เทพกรรณ์ อายุ 47 ปี อดีตประธานชุมชนวัดทุ่งประชานารถ กล่าวว่า วันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมนายไพศาล ได้บอกกับญาติว่าจะยืมตัวไปทำแผนแล้วจะให้กลับบ้าน นายไพศาลซึ่งมีสติไม่ค่อยสมประกอบ ดีใจที่ตัวเองจะได้ออกทีวีคิดว่าไม่มีอะไร หลังนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลเพื่อฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม นายไพศาลได้ยินว่าต้องติดคุกถึงกับช็อกหมดสติจนแพทย์และพยาบาลต้องหามตัวนำส่งโรงพยาบาล คิดว่านายไพศาลน่าจะเป็นแพะและจับผิดตัว

ส่วนเพื่อนบ้านหญิงอีกคนหนึ่งกล่าวว่า ขณะตำรวจมาที่บ้านนายไพศาลเพื่อตรวจค้น ได้นำเอาเสื้อผ้าเก่าๆ ไปด้วย ขณะที่รองเท้าและเข็มขัดที่ใช้ก่อเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพก็ไปยืมบ้านข้างเคียงมา สภาพบ้านนายไพศาลยากจนข้นแค้น ไม่น่าจะมีเงินซื้อ วันที่ตำรวจมาจับตัวนายไพศาลบอกเพียงว่าจะพาไปออกทีวี นายไพศาลซื่อก็เลยปล่อยเลยตามเลย ทำตามที่ตำรวจบอกทุกอย่าง

กระทั่งวันที่ถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาล หลังจากทราบว่าตนเองต้องติดคุกก็ถึงกับเป็นลมล้มพับต้องหามส่งโรงพยาบาลทันที ขณะที่วันเกิดเหตุมีเพื่อนที่สามารถเป็นพยานยืนยันได้ว่านายไพศาลอยู่กับพวกตนตลอดทั้งคืนได้ถึงสี่คน เพราะทั้งหมดนอนอยู่ด้วยกัน

และเมื่อผู้สื่อข่าวนำภาพผู้ต้องหาจากกล้องวงจรปิดมาให้ดู ทั้งหมดต่างยืนยันว่าไม่ใช่ตัวนายไพศาลอย่างแน่นอน เนื่องจากนายไพศาลไม่เคยแต่งตัวในลักษณะเช่นนั้นมาก่อน ไม่เคยมีเข็มขัดหนังอย่างในภาพ และที่สำคัญนายไพศาลไม่เคยมีหรือสวมใส่รองเท้าผ้าใบเหมือนคนร้ายที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้แก่นายไพศาลด้วย เพราะหากลงโทษนายไพศาล ผู้ก่อเหตุตัวจริงก็จะยังคงลอยนวลอยู่

กำลังโหลดความคิดเห็น