ชาวบ้านรุดขอขมา “แม่กุหลาบ” เจ้าแม่ตะเคียนทอง หลังเจออาถรรพ์‏

กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านหนองกุงศรีรุดขอขมาเจ้าแม่กุหลาบ เจ้าแม่ตะเคียนทองวัดหนองสวง หลังเจออาถรรพ์ป่วยไม่ทราบสาเหตุ ต้องแห่คืนไม้ตะเคียนที่ฉวยไปอาการจึงหายราวปาฏิหาริย์

จากกรณีที่พบไม้ตะเคียนทองในลำห้วยใหญ่ บ้านหนองสรวง อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ และชาวบ้านต่างร่ำลือถึงความเฮี้ยนและอาถรรพ์ไปต่างๆ นานา ถึงขั้นไม่กล้าไปทำมาหากินใกล้บริเวณที่ตะเคียนทองล้มอยู่ จนกระทั่งมีการทำพิธีนำไม้ขึ้นจากน้ำ และนำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดหนองสวง บ้านหนองสรวง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

กระแส “แม่กุหลาบ” ตะเคียนทอง ยังคงเรียกศรัทธาจากประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาที่วัดหนองสวงเพื่อขอบารมี โชคลาภ และกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล โดยเฉลี่ยประมาณ 800-1,000 คน โดยเฉพาะใกล้วันหวยออกวัดจะเนืองแน่นไปด้วยผู้คน

ขณะที่นายนุกุล นาสมใจ นายเสมียน สีมี และนายนิพนธ์ นาสมใจ ราษฎรบ้านหนองสรวง ได้เข้ากราบนมัสการพระครูสุธีวรสาร (ดร.) เจ้าอาวาสวัดหนองสวง เจ้าคณะหนองกุงศรี (ธ.) เพื่อขออนุญาตทำพิธีขอขมาเจ้าแม่ตะเคียนทอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ทำการล่วงเกินด้วยการตัดไม้จากต้นตะเคียนไปขาย จนทำให้เกิดการเจ็บป่วยมานานหลายปี

นายนิพนธ์เล่าว่า ประมาณปี 2553 ตนกับสมัครพรรคพวกได้เข้าไปตัดไม้ตะเคียนทองต้นนี้ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเอาไป 6 เมตร ครั้งที่สองอีก 6 เมตร โดยทีแรกว่าจะเอาไปทำเรือ แต่สุดท้ายก็ขายต่อให้ชาวบ้าน และครั้งที่ 3 ว่าจะเอาทั้งต้นขึ้นจากน้ำ แต่ก็เจออาถรรพ์เสียก่อน จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่กล้าที่จะเฉียดเข้าไปใกล้แม้แต่ครั้งเดียว

กระทั่งต้นตะเคียนทองถูกนำมาเก็บรักษาในวัดจึงกล้าที่จะเข้ามา ซึ่งตั้งใจว่าจะขอขมาลาโทษกับสิ่งที่ได้ทำล่วงเกินไป และจากนี้ไปก็ขอเป็นลูกหลานบริวารที่จะคอยดูแลปกป้องต่อไป

“ครั้งนั้นระหว่างที่กำลังจะเอาเลื่อยลงไปตัดไม้ที่อยู่ในน้ำ จู่ๆ ก็มีลมกระโชกแรง เมฆฝนครึ้ม และมีเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าเฉพาะบริเวณที่ตะเคียนอยู่ โดยตอนนั้นกับพรรคพวก 5 คนต้องวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่นเพราะเป็นปรากฏการณ์ที่น่ากลัวมาก ตัวผมเองวิ่งขึ้นไปบนกระท่อมปลายนา และได้ยินเสียงฟ้าดังเปรี้ยงลงมาที่กระท่อม แล้วไม่รู้สึกตัวอีกเลย กระทั่งฟื้นขึ้นมาอยู่บ้านก็มีอาการประหลาด เหมือนร่างกายถูกมัดแน่นจนหายใจไม่ออก ญาติจึงนำส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์บอกว่าไม่เป็นไรมากให้กลับบ้าน แต่อาการอึดอัดยังคงอยู่ จึงได้พึ่งทางหมอผีฟ้าให้มาบำบัดอาการโดยการรำรักษา จึงทราบที่มาของการป่วยมาจากการถูกลงโทษ ซึ่งจากนั้นเป็นต้นมาก็เลิกอาชีพตัดไม้ ไม่เข้าไปใกล้ต้นตะเคียนทองนั้นอีกเลย”

นอกจากนายนิพนธ์แล้ว กลุ่มคนที่ไปตัดไม้ทั้ง 5 คนได้ทยอยเข้ามาขอขมาแม่ตะเคียนกันครบทุกคนแล้ว และยังมีคนที่ซื้อไม้ตะเคียนไปก็ทยอยนำไม้มาคืนที่วัด ซึ่งจากการสอบถามยังทราบว่าคนที่ครอบครองไม้แต่ละคนต่างก็มีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น ทั้งป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อนำไม้มาคืนก็หายดีวันดีคืน แต่บางรายถึงขั้นเสียชีวิตแล้ว

ด้านพระครูสุธีวรสาร (ดร.) กล่าวว่า ตอนนี้ทางวัดต้องอาศัยกำลังของชาวบ้านมาช่วยดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากเริ่มมีประชาชนเดินทางมาอย่างหนาแน่น ซึ่งทางวัดก็ไม่ได้กีดกันแต่อย่างใด เพราะความเชื่อของชาวบ้านเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ แต่ก็เตือนให้ใช้สติมากกว่า และขอไม่ให้มีการทาแป้งต้นตะเคียนเนื่องจากทำความสะอาดยาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางวัดต้องเปิด-ปิดวัดให้เป็นเวลามากขึ้น โดยจะเปิดเวลา 06.00-21.00 น. ทุกวัน

สำหรับเงินบริจาคของประชาชนที่เดินทางมากราบไหว้คณะกรรมการวัดจะเป็นผู้ดูแล โดยเงินส่วนนี้จะเป็นทุนทรัพย์สมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรมปัญโญภาสของวัดหนองสวง