xs
xsm
sm
md
lg

นอภ.เมืองกาญจน์มั่นใจหลักฐานมัดแก๊งขบวนการปลอมแปลงบัตรประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากแฟ้ม
กาญจนบุรี - นายอำเภอเมืองกาญจนบุรีมั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่สุดรัดกุม มั่นใจดำเนินคดีทั้งวินัย และอาญากับข้าราชการที่พัวพันต่อขบวนการปลอมแปลงบัตรประชาชนชาวพม่าได้แน่นอน เผยจากการสอบสวนมีการสารภาพแล้วว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง แต่ผู้ที่อยู่เหนือขึ้นไป หรือผู้ที่เป็นหัวหน้าขบวนการยังไม่ยอมรับสารภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 7 ก.พ.58 ที่ผ่านมา นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายสรธร บ่อเกิด ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร นำเอกสาร จำนวน 5,000 หน้า เข้าพบ พ.ต.อ.นคร พักไพโรจน์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีขบวนการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรรายใหญ่ ซึ่งมีข้าราชการระดับปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) 6 ราย อดีตกำนัน 1 ราย ผู้ใหญ่บ้าน 2 ราย พลเรือน 6 ราย และบุคคลต่างด้าว 421 คน

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (9 ก.พ.) นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับการแจ้งความดำเนินคดีต่อข้าราชการ และขบวนการปลอมแปลงบัตรประจำตัวของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ที่เป็นแงงานต่างด้าวชาวพม่าว่า เนื่องจากเป็นการปลอมแปลงบัตรบุคคลซึ่งไม่มีสถานะทางทะเบียน เมื่อเราตรวจสอบย้อนหลังอย่างละเอียดพบว่ามีการทุจริตกันเกิดขึ้นในวงการราชการ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการในระดับไหนก็ตาม

การทุจริตครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นคือ พื้นฐานของบุคคลในระดับผู้นำท้องถิ่นคือ ตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ไล่ไปจนถึงหน่วยงานที่เก็บระบบฐานทะเบียน เมื่อเราตรวจสอบพบมีการทุจริตกันเกิดขึ้น ก็ต้องดำเนินการลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงว่าทำอะไรให้แก่สังคม ในสิ่งที่ผิดนั้นมันไม่เป็นผลดี และต้องถูกลงโทษ ยิ่งเป็นข้าราชการยิ่งต้องถูกดำเนินคดีถึงสองเท่า

นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ทางอำเภอเมืองได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงมาอย่างต่อเนื่องจนมั่นใจว่าหลักฐานที่เรามีนั้นค่อนข้างที่จะรัดกุม สามารถเอาผิดต่อผู้กระทำผิดได้อย่างแน่นอน และได้ดำเนินการขออนุมัติจาก นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้กระทำผิดที่เป็นข้าราชการจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญา และวินัย โทษทางวินัยสูงสุดก็คือ การไล่ออกจากข้าราชการ และจะต้องดูว่าข้าราชการคนใดกระทำความผิดมากน้อยแค่ไหน

“ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้อำเภอเมืองกาญจนบุรี ดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดแล้ว” นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าว

นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าวต่ออีกว่า การเดินหน้าเพื่อดำเนินคดีนั้นเราได้ส่งเรื่องร้องทุกข์ไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนจะทำการตรวจสอบเอกสารที่เรามอบเป็นหลักฐานทั้งหมด 5,000 หน้า ให้ละเอียด จากนั้นพนักงานสอบสวนจะต้องส่งสำนวนทั้งหมดไปให้แก่ ป.ป.ท.ภายในไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

ส่วนกระบวนการความผิดทางวินัยสามารถดำเนินการได้ในทันที ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้กำลังเร่งสอบสวนอยู่ และระหว่างการสอบสวนหากมีการซัดทอดไปถึงใครที่ร่วมกระทำผิด จะต้องมีการขยายผลดำเนินการต่อขบวนการดังกล่าวเพิ่มเติม แต่ขณะนี้ยังไม่พบ

“จากการสอบสวนที่ผ่านมา มีการสารภาพแล้วว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง แต่ผู้ที่อยู่เหนือขึ้นไป หรือผู้ที่เป็นหัวหน้าขบวนการยังไม่ยอมรับสารภาพ ซึ่งก็เป็นสิทธิที่จะกระทำได้ และหากข้าราชการคนนั้นมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิด ก็ให้ไปเตรียมเอกสารหลักฐานมาหักล้างได้ โดยเรายังให้โอกาสอยู่ แต่ทางอำเภอเชื่อว่า สุดท้ายแล้วผู้กระทำผิดคงจะต้องจำนนด้วยหลักฐานที่เรามีอยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าหลักฐานที่มีอยู่นั้นมีอะไรบ้าง” นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น