ศูนย์ข่าวภูมิภาค - รองแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อม ผบ.กกล.นเรศวร ยกคณะลุยอุดรอยรั่วไม้สาละวินใส่โสร่ง สั่งตั้ง บก.ควบคุม-ตั้งจุดตรวจ-เพิ่มความถี่ลาดตระเวนตลอดแนวลำน้ำสาละวิน จัดการขั้นเด็ดขาดยิงได้หากพบไม้ไหลล่องเป็นแพ พร้อมแกะข้อมูลจากคนทำไม้ สาวลึกขบวนการไม้เถื่อน กลุ่มขนย้าย กลุ่มตัด จุดพักไม้
วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.คู่ชีพ เลิศหงิม รองแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาลักลอบตัดไม้ในเขตป่าสาละวิน ร่วมกับป่าไม้ หน่วยพิทักษ์ป่า และฝ่ายปกครอง ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 16 สาขาแม่ฮ่องสอน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮองสอน ระหว่างวันที่ 7-8 ก.พ.นี้
เพื่อหยุดยั้งขบวนการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าสาละวิน และสั่งให้เร่งสืบสวนหาผู้กระทำความผิดกานไม้ทิ้งไว้กลางป่า พร้อมให้กองกำลังนเรศวร ส่วนแยก 1 เป็น บก.ควบคุม วางแผน และสั่งการบูรณาการทุกภาคส่วนตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป่าไม้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ตลอดแนวฝั่งแม่น้ำสาละวินอย่างถาวรก่อนวันที่ 30 ก.ย.นี้
โดยเริ่มจากจัดตั้งชุดเฉพาะกิจลาดตระเวนบริเวณเขตรับผิดชอบของหน่วยป้องกันทั้ง 7 แห่งของกรมป่าไม้ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน ต.แม่สามแลบ ต.สบเมย และรอยต่ออุทยานแห่งชาติแม่เงา ต.แม่ลาน้อย เน้นการเฝ้าระวังลำน้ำสาละวิน หากพบผู้กระทำความผิดให้ปฏิบัติการกวาดล้างจัดการอย่างเด็ดขาด
ขั้นต่อไปคือ กวาดล้างตามหมู่บ้านเป้าหมาย พร้อมกับตรวจสอบดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ จากนั้นขยายผลดึงราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่าร่วมกดดันและปฏิบัติการจิตวิทยา ป้องกันรักษาป่าตามหมู่บ้านพื้นที่เสี่ยง โดยให้ทำความเข้าใจถึงผลเสียของการทำลายป่า และวางแผนแนวทางฟื้นฟูป่าต่อไป ซึ่งตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.ถึง 4 ก.พ.สามารถจับกุม และยึดของกลางเป็นไม้สัก 166 ท่อน และไม้สักแปรรูป 355 แผ่น
จากนั้นรองแม่ทัพภาคที่ 3 และ ผบ.กองกำลังนเรศวรไปมอบผ้าห่มแก่ผู้ประสบภัยหนาว พร้อมปฏิบัติการจิตวิทยาต่อชาวบ้าน เช่น บ้านแม่สามแสบ บ้านทุ่งป่าคา บ้านป่าหาก ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง และ ต.บ้านลัน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อไม่ให้ตัดไม้ทำลายป่าอีก
พล.ต.นพพรกล่าวว่า นับจากนี้จะต้องลาดตระเวนถี่ขึ้น จากทุก 15 วันเป็นทุก 7 วัน ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบตัดไม้ไทย ชักลากลงแม่น้ำสาละวินที่เป็นลำน้ำสากล โดยมีข้อตกลงทั้ง 2 ประเทศถึงการห้ามล่องเรือเวลากลางคืน หากใครวิ่งเรือและลากจูงไม้ถือเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย ทหารสามารถหยุดยั้งหรือยิงได้ทันที ส่วนทหารพรานที่ตั้งประจำจุดตอนบนก็ต้องลงมาตั้งจุดเฝ้าระวังตามแนวแม่น้ำสาละวินด้วย
ส่วนแนวทางป้องกันคือ เฝ้าระวังด้วยการลาดตระเวน หาร่องรอยการชักลากไม้ท่อนลงสู่แม่น้ำ พร้อมกับตั้งจุดสกัดตามแนวขอบลำน้ำสาละวิน บริเวณบ้านแม่สามแลบ-ปากห้วยสบยม-ปากห้วยสบแงะ และตั้งจุดตรวจทางน้ำ 7 จุดตลอดจุดเสี่ยงของลำน้ำสาละวิน
นอกจากนี้ยังต้องสำรวจพื้นที่ และจัดทำบัญชีที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ติดตามความเคลื่อนไหวพื้นที่เสี่ยงลักลอบการตัดไม้ เชื่อมโยงขบวนการค้าไม้เถื่อน กลุ่มขนย้าย กลุ่มตัด จุดพักไม้ แถบ ต.แม่ลาน้อย ต.แม่ลาหลวง ต.แม่ยวม ต.แม่คง ต.แม่สะเรียง ต.แม่สามแลบ ต.สบเมย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.คู่ชีพกล่าวว่า การแก้ปัญหาไม้สาละวินอย่างยั่งยืนจะเน้นแนวการป้องกันไม่ให้ตัดไม้ ดีกว่าการปราบปรามขั้นรุนแรงหรือเด็ดขาด ทำอย่างไรที่จะป้องกันไม่ให้ไม้สัก ถูกตัดจากฝั่งไทยแล้วลอยไปในลำน้ำสาละวิน หากเจอไม้ตัดเป็นกองแล้วจะต้องสืบหาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้ จะต้องโยงไปถึงผู้ว่าจ้าง แต่ถ้าพูดแล้วไม่ฟังก็จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด
ส่วนภาครัฐเองจะต้องลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจ และบอกกล่าวประชาชนในพื้นที่ก่อนว่าไมให้ร่วมมือ ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เพราะมีความรู้น้อย กลายเป็นเหยื่อของนายทุนผู้ว่าจ้าง และที่สำคัญไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปะทะกับชาวบ้านเกี่ยวกับปัญหาที่ทำกินและตัดไม้ทำลายป่า