อุตรดิตถ์ - ทั้งหมอ ยายยืนยัน “น้องบิ๊ก-เด็กเมาคลี” เดิน และวิ่งได้เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้วิ่งสี่ขาคล้ายสุนัขเหมือนสื่อเสนอข่าว ระบุเป็นเด็กออทิสติกทั่วไป ขณะที่หลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือแล้ว
วันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 30/6 หมู่ที่ 2 ต.นายาง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นบ้านของ ด.ช.เอกพล น้อยห่วง หรือน้องบิ๊ก อายุ 15 ปี เด็กออทิสติก ไม่สมประกอบ อาศัยอยู่กับยายและป้า 3 คน ภายในบ้านที่ชาวบ้านใกล้เคียงมาร่วมปลูกสร้างให้ล้อมด้วยสังกะสี ที่มีสื่อมวลชนหลายสำนักระบุว่าเป็นเด็กเมาคลี เดิน-วิ่ง 4 ขาคล้ายสุนัข จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วนั้น แท้จริงแล้ว “น้องบิ๊ก” สามารถเดิน-วิ่งได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ยายดวงสุวรรณ์ กองกัน อายุ 83 ปี ที่ขณะนี้พิการเดินไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัว และเป็นผู้ที่รับเลี้ยงเด็กกล่าวว่า แม่น้องบิ๊ก ซึ่งเป็นเพื่อนกับลูกสาวที่ไปทำงานด้วยกันที่กรุงเทพฯ นำมาฝากเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ จากนั้นแม่น้องบิ๊กก็ไม่เคยมาเหลียวแลอีกเลย ตนต้องเลี้ยงอย่างอดๆ อยากๆ มาตลอด
ยายดวงสุวรรณ์บอกว่า ช่วง 2 ปีแรกก็พอมีเงินซื้อนมกระป๋องให้น้องบิ๊กกิน แต่ต่อมาไม่มีเงิน ต้องกินน้ำซาวข้าวผสมกับกล้วยน้ำว้าแทน เพราะตนก็ไม่มีรายได้หาเช้ากินค่ำไปวันๆ และตอนนี้ไปไหนไม่ได้ต้องอาศัยเพื่อนบ้านนำอาหารมาให้บ้าง ลูกสาวที่ยังพอออกไปหางานทำเล็กๆ น้อยๆ เพื่อได้เงินมาซื้อกับข้าวไปวันๆ เลี้ยงตามมีตามเกิด ส่วนบ้านหลังที่อาศัยอยู่ก็มี อบต., ทหาร และชาวบ้านมาช่วยปลูกสร้างให้
ยายดวงสุวรรณ์กล่าวอีกว่า ด.ช.เอกพล หรือน้องบิ๊ก เขาพิการมาตั้งแต่กำเนิด พูดไม่ได้ เรียกยายได้คำเดียว วันหนึ่งๆ ก็จะอยู่ด้วยกัน 2 คน เข้ากับคนอื่นไม่ได้ เพราะจะถูกเด็กในหมู่บ้านแกล้งตลอดเวลา จนต้องพากันมาหลบอาศัยอยู่ชายป่า จึงไม่มีเพื่อนเล่น ซึ่งที่บ้านเลี้ยงสุนัขไว้ 2 ตัว เมื่อน้องบิ๊กได้ยินเสียงสุนัขเห่าก็จะออกเสียงเห่าตาม บางครั้งก็ไปขลุกอยู่กับสุนัข วิ่งเล่นกับสุนัข
“เขาเดิน วิ่งได้ ไม่ใช่เดิน 4 ขาเหมือนสุนัขตามที่เป็นข่าวออกไป” ยายดวงสุวรรณ์ยืนยัน
และขณะที่ผู้สื่อข่าวมารอที่บ้าน เป็นจังหวะที่ “น้องบิ๊ก” กลับมาจากโรงพยาบาล และตัดผมใหม่แล้ว เดิน และวิ่งเข้ามาหายายได้เหมือนคนปกติ ไม่ใช่เดิน 4 ขาแต่อย่างใด
ด้านนางศรีไพร จันทร์เยี่ยม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ซึ่งได้นำน้องบิ๊กไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพิชัย และนำกลับมาส่งที่บ้านพัก กล่าวว่า สาเหตุที่น้องเขาเดิน 4 ขาเป็นบางครั้งนั้นเพราะเขาจำอย่างสุนัข ทั้งเสียงเห่า การเดิน เนื่องจากเขาไม่มีใครเป็นเพื่อนเล่น จึงจดจำท่าทางเอาอย่างสัตว์ ส่วนอาการโดยทั่วไปก็คือเด็กออทิสติกทั่วไป มักไม่สุงสิงกับใคร จะอยู่คนเดียว ซึ่งขณะนี้ต้องรอแพทย์ตรวจร่างกายอีกครั้งเพื่อที่จะทำการช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่นายชัย บุญฤทธิ์ นายก อบต.นายาง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้นำเอาเครื่องอุปโภค บริโภคมาให้ตลอดเวลา และได้เพิ่มเบี้ยยังชีพเป็นคนละ 800 บาท รวมทั้งเงินตกเบิกของคนพิการอีก 1,200 บาท และต่อไปจะหางบประมาณมาก่อสร้างบ้านให้ใหม่ โดยขอความร่วมมือจากทหารค่ายพระศรีพนมมาศ นักศึกษาจากวิทยาลัยการอาชีพอำเภอพิชัย เพื่อซ่อมแซมบ้านให้ต่อไป และในวันนี้ก็มีหลายหน่วยงานมามอบเงินให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้วย
